NTSB เรียกร้องให้มีการติดตั้งระบบเตือนความเร็วเกินกำหนดบนรถใหม่ทุกคันในสหรัฐฯ

หลังจากที่มีอุบัติเหตุครั้งใหญ่เกิดขึ้นในลาส เวกัส เลยทำให้องค์กรเกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนนอย่าง NTSB ได้มีการเรียกร้องให้มีการติดตั้งระบบ “เตือนความเร็วเกินกำหนด” บนรถยนต์ใหม่ทุกคัน หวังลดความสูญเสียให้ลดลงในสหรัฐฯ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีคนขับรถ Dodge Challenger ด้วยความเร็ว 65 กม./ชม. ฝ่าไฟแดงในลาส เวกัส จนทำให้พุ่งชนรถแวนที่วิ่งมาอีกทาง จนทำให้คนในรถ Dodge 2 คน และในรถแวนอีก 9 คน เสียชีวิตทันที เมื่อสอบสวนแล้วพบว่า คนขับรถ Dodge นั้น มีสารเสพติดอย่างโคเคนและเฟนไซคลิดีนในร่างการเป็นปริมาณสูง สร้างความสะเทือนใจไปทั่วประเทศ นั่นทำให้ US National Transportation Safety Board (NTSB) องค์กรที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนในสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้มีการติดตั้งระบบ “Intelligent speed assistance technology” หรือระบบเตือนความเร็วเกินกำหนดลงบนรถใหม่ทุกคัน โดยได้มีการส่งจดหมายไปยังค่ายรถยนต์ในสหรัฐฯ แล้วรวม 17 ค่าย รวมทั้ง General Motors, Ford, Toyota , Volkswagen, BMW และ Honda

ระบบ เตือนความเร็วเกินกำหนด นั้น จะใช้เทคโนโลยีในการอ่านป้ายเตือนจำกัดความเร็ว และระบบ GPS เพื่อให้ตัวรถรู้ว่า พื้นที่นั้นมีการจำกัดความเร็วเอาไว้ที่เท่าไหร่ เพื่อเตือนให้คนขับได้ทราบว่า ตอนนี้ได้ขับรถเกินความเร็วที่กำหนดเอาไว้แล้วเมื่อใช้ความเร็วเกิน ทั้งนี้ระบบนี้ ได้มีการบังคับให้ติดตั้งลงบนรถยนต์ใหม่ทุกคัน ที่จำหน่ายตั้งแต่กรกฎาคม 2024 ในยุโรป แต่ยังไม่มีการบังคับใช้แต่อย่างใดในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม การติดตั้งระบบนี้ ไม่ได้ช่วยให้ตัวรถลดความเร็วลงได้แต่อย่างใด ถ้าหากผู้ขับขี่ไม่มีสำนึกเรื่องความปลอดภัยด้วยตัวเอง