เผยโฉมรถกระบะ Mazda BT-50 ปรับโฉมใหม่ หล่อเข้มกว่าเคย

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 19 ต.ค. 67 14:19
  • 1,695 อ่าน

ล่าสุดทาง Mazda ได้เปิดตัวรถกระบะ Mazda BT-50 เจเนอเรชั่นที่ 3 รุ่นปรับโฉมใหม่ ที่เน้นการปรับรูปลักษณ์และความหรูหรา รวมถึงเพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัย

Mazda BT-50

สำหรับปี 2025 รถกระบะขนาดกลาง Mazda BT-50 จะได้รับการปรับปรุงรูปลักษณ์ใหม่ โดยเพิ่มสัมผัสของภาษาการออกแบบ Kodo soul of motion ของ Mazda และทำให้การออกแบบใกล้เคียงกับรถยนต์และ SUV ของแบรนด์มากขึ้น

ไฟหน้า LED ถูกจัดกรอบด้วยกระจังหน้าใหม่ กันชนที่ออกแบบใหม่ ซึ่ง Mazda อ้างว่ามีม่านอากาศเพื่อปรับปรุงการสิ้นเปลืองน้ำมัน ด้านหลังประตูท้ายได้รับการออกแบบให้มีสันนูนและเชื่อมกับไฟ LED ที่ปรับปรุงใหม่ มีโลโก้ Mazda ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา 

Mazda BT-50

มาพร้อมทางเลือกสีตัวถังใหม่ 3 สี ได้แก่ Red Earth Metallic, Geode White Pearl และ Sailing Blue Metallic ทำให้มีสีให้เลือกทั้งหมด 7 สี และสี Red Earth Metallic เป็นสีพิเศษเฉพาะ BT-50 และยังมีล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ขนาด 9 นิ้วใหม่ พร้อมด้วยปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มปรับจูน แผงหน้าปัด (Multi-Information Display) ขนาดเพิ่มขึ้นจาก 4.2 นิ้ว เป็น 7.0 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลรถยนต์แบบเรียลไทม์ รวมถึงแรงดันลมยาง มุมเลี้ยว โหมดการขับขี่ และสถานะการล็อกเฟืองท้าย

Mazda BT-50

การเชื่อมต่อ Android Auto รองรับการใช้งานแบบไร้สาย ซึ่งก่อนหน้านี้จำกัดเฉพาะ Apple CarPlay เท่านั้น และสามารถเชื่อมต่อได้ผ่านช่องเสียบ USB-C เช่นเคย 

ยังมีการปรับปรุงวัสดุที่ใช้กับขอบประตู ฝาคอนโซล และแผงหน้าปัด และเปลี่ยนจากหนังสีน้ำตาลเป็นสีดำในบางรุ่น รุ่นเรือธงมีเบาะนั่งหนัง Maztex สีดำและสีเทอร์ราคอตต้าพร้อมหนังกลับสังเคราะห์ที่เย็บชื่อ BT-50 ไว้ที่พนักพิงศีรษะด้านหน้า

Mazda BT-50

ตัวรถยังคงใช้พื้นฐานมาจาก Isuzu D-Max มีระบบเบรกขณะข้ามเลน ระบบครูซแบบปรับได้ และระบบจดจำป้ายจราจรรวมอยู่ในรายการอุปกรณ์มาตรฐาน และกล้องรอบคันใหม่ที่ด้านหน้าซึ่งเพิ่มระยะการมองเห็นของรถบรรทุกเป็นสองเท่า ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติสามารถตรวจจับรถจักรยานยนต์และคนเดินถนนที่ทางแยกได้แล้ว และเทคโนโลยีควบคุมเลนไม่จำเป็นต้องเห็นเส้นแบ่งถนนเพื่อบอกว่าขอบถนนอยู่ที่ไหนอีกต่อไป

Mazda BT-50

ขุมพลังมีตัวเลือกระบบส่งกำลังแบบเดียวกับรุ่นก่อน ทั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1.9 ลิตร กำลัง 148 แรงม้า (110 กิโลวัตต์ / 150 PS) หรือรุ่น 3.0 ลิตร กำลัง 187 แรงม้า (140 กิโลวัตต์ / 190 PS) ทั้งสองเครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ส่งกำลังไปล้อหลังหรือทั้งสี่ล้อ 

ที่มา carscoops

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ