Hyundai Tucson ปี 2025 มาพร้อม Baby Mode และ Hybrid Boost

ในงาน New York Auto Show ค่ายรถยนต์ Hyundai ได้ถือโอกาสนี้ในการเปิดตัว Hyundai Tucson ปี 2025 เวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ในอเมริกาเหนือ นับเป็นการปรับโฉมช่วงกลางอายุในเจนเนอเรชั่นที่สี่ ที่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศเกาหลีเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2023

Hyundai Tucson ปี 2025 มีการตกแต่งแบบใหม่ และการออกแบบภายในใหม่ ที่ผสานเทคโนโลยีล่าสุดจากฮุนได ส่วนของระบบส่งกำลังยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมีตัวเลือกเครื่องยนต์สันดาป ICE, ไฮบริด และปลั๊กอินไฮบริด แต่การตั้งค่าระบบไฟฟ้าได้รับการอัปเกรดเล็กน้อย โดยขณะนี้มี "โหมดเด็ก" ใหม่เพื่อการเร่งความเร็วที่นุ่มนวล

ภายนอกมีกันชนหน้าใหม่ที่ได้รับสไตล์บ็อกเซอร์และ DRLs สดในกระจังหน้าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ มีแผ่นกันกระแทกด้านหน้าและด้านหลังขนาดใหญ่พิเศษ รุ่น N Line นำเสนอรูปลักษณ์สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยการตกแต่งด้วยสีเดียวกับตัวรถ การตกแต่ง XRT โดดเด่นด้วยการหุ้มพลาสติกที่หนักกว่าและราวหลังคาที่สูงขึ้น

ภายในห้องโดยสารมีจอแสดงผลโค้งแบบพาโนรามา มีหน้าจอคู่ขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถเลือกใช้ร่วมกับ HUD สีขนาด 12 นิ้ว อินโฟเทนเมนต์ใหม่กล่าวกันว่าเร็วขึ้นและใช้งานง่ายขึ้นในขณะที่เข้ากันได้กับการอัปเดต OTA

อุปกรด้านความปลอดภัยได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้ เพิ่มระบบเตือนการมองไปข้างหน้า (FAW) ที่จะติดตามการจ้องมองของผู้ขับขี่ผ่านกล้องอินฟราเรด หากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนอง ระบบ Smart Cruise Control จะทำให้รถหยุดนิ่ง โดยจะเปิดใช้งานไฟฉุกเฉินและเบรกจอดรถแบบอิเล็กทรอนิกส์

โดยคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมในทูซอนรุ่นไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดคือ "Baby Mode" ที่สามารถเลือกได้ ตามข้อมูลของ Hyundai โหมดนี้ได้รับการออกแบบมาสำหรับลูกค้าที่มีทารกหรือสัตว์เลี้ยง เนื่องจาก ช่วยลดความเฉียบแหลมของการเร่งความเร็วในช่วงแรก ทำให้อินพุตของผู้ขับขี่มีความราบรื่น เพื่อความรู้สึกเร่งความเร็วที่นุ่มนวลสำหรับผู้โดยสาร

Hyundai Tucson Hybrid ยังคงใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จขนาด 1.6 ลิตร ที่ตอนนี้จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าอันทรงพลังมากขึ้น โดยให้กำลัง 64 แรงม้า (47.7 kW / 65 PS) เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า 59 แรงม้า (44 kW / 60 PS) พร้อมด้วย 1.49 kWh ก้อนแบตเตอรี่ ให้กำลังรวมที่สูงขึ้นเล็กน้อยที่ 231 แรงม้า (172 กิโลวัตต์ / 234 แรงม้า)

ส่วนของ Hyundai Tucson Plug-in Hybrid จับคู่เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.6 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ได้รับการอัพเกรด โดยขณะนี้ให้กำลัง 97 แรงม้า (72 kW / 98 PS) เทียบกับรุ่นก่อนหน้า 90 แรงม้า (66.9 kW / 91 PS) พร้อมด้วย 13.8 แบตเตอรี่ kWh และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ส่งผลให้มีกำลังรวมที่สูงขึ้นถึง 268 แรงม้า (200 กิโลวัตต์ / 271 แรงม้า)

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ HTRAC เป็นมาตรฐานพร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ (Normal, Sport, Snow และ My Drive)  รุ่นปรับโฉมยังสามารถปรับระดับการเบรกแบบใหม่ได้อีกด้วย ในรุ่นไม่ใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินมาตรฐาน 2.5 ลิตร ให้กำลัง 187 แรงม้า (139 กิโลวัตต์ / 190 PS) เท่ากับรุ่นปีที่แล้ว จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

ที่มา carscoops