Russell ซิวแชมป์สนาม Max ซิวแชมป์โลก ศึกรถแข่ง F1 2024 สนามที่ 22 ในลาสเวกัส
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 24 พ.ย. 67 22:13
- 1,067 อ่าน
ศึกรถแข่ง F1 ฤดูกาลปี 2024 ก็มาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว โดยสนามนี้ รถของ Mercedes แรงสุดขีด เหมาทั้งอันดับ 1 และ 2 โดย Russell รับแชมป์สนามแบบ Flag- to - Flag ไม่มีใครแซงได้ คว้าแชมป์สนามไปได้ แต่ Verstappen ถึงแม้จะจบที่ 5 แต่ก็ดีมากพอที่จะรับถ้วยแชมป์โลกไปครอง ในสนามที่ 22 ที่ลาสเวกัส
การแข่งขันรถสูตร 1 หรือ F1 ในสุดสัปดาห์นี้ เป็นสนามที่ 22 ของฤดูกาลแข่งขันประจำปี 2024 ในรายการ FORMULA 1 HEINEKEN SILVER LAS VEGAS GRAND PRIX 2024 ที่ Las Vegas Strip Circuit ในลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผลการแข่งขันรอบคัดเลือกนั้น เป็น George Russell ของทีม Mercedes ทำเวลาต่อรอบได้ดีที่สุด รับตำแหน่ง Pole-Position ไป ตามมาด้วย Carlos Sainz ของทีม Ferrari ในอันดับที่ 2 และ อันดับที่ 3 มีเซอร์ไพรซ์เล็กน้อย เมื่อ Pierre Gasly ของทีม Alpine ได้ออกตัวเป็นอันดับที่ 3
- เมื่อไฟปล่อยตัวดับลง กลายเป็น Charles Leclerc ที่ออกตัวในอันดับที่ 4 ทำได้ดีที่สุด พุ่งตัวออกมาตามจ่อท้ายผู้นำอย่าง Russell ได้ โดยเป็น Sainz ที่ร่วงไปอันดับที่ 3
- สนามที่ Las Vegas เป็นสนามแบบ Street Circuit ที่แซงกันยากอยู่แล้ว กลุ่มนำเลยวิ่งเรียงลำดับกันยาว มีเพียงแค่ Max Verstappen ของทีม Red Bull Racing ที่แซง Gasly จากอันดับที่ 5 เป็นอันดับที่ 4 ในรอบที่ 3 เท่านั้น และรอบที่ 7 Sainz ก็แซงเพื่อนร่วมทีมขึ้นกลับไปครอบอันดับ 2 คืนไปได้
- รอบที่ 9 แชมป์โลกและว่าที่แชมป์โลก Verstappen ก็เริ่มแรงขึ้นมา เปิดปีกท้าย DRS ไล่แซง Leclerc ขึ้นมาอยู่ตำแหน่งที่ 3 ได้แล้ว ซึ่งถ้าเขามีตำแหน่งที่ดีกว่า Lando Norris ของทีม McLaren ได้ ก็จะรับตำแหน่งแชมป์โลกของปีนี้ไปได้เลย
- รอบที่ 10 ที่หลายคันเริ่มเข้าไปเปลี่ยนยาง แต่ Verstappen ยังลุยต่อ ไล่แซง Sainz ขึ้นไปอยู่อันดับที่ 2 จนได้ ก่อนที่ Sainz จะเข้า Pit เพื่อเปลี่ยนยาง และในรอบต่อไป Verstappen ก็เปลี่ยนยางด้วยเช่นกัน ทำให้อันดับหล่นไปอยู่ที่ 7 ส่วน Sainz อยู่อันดับที่ 9
- รอบที่ 13 ถึงคิวของ Russell เข้ามาเปลี่ยนยางบ้าง แต่ด้วยเจ้าตัวนำห่างพอสมควร เลยออกมาอยู่ที่ 2 ตามหลัง Lewis Hamilton เพื่อนร่วมทีมที่ยังไม่ได้เปลี่ยนยางอยู่เกือบ 5 วินาที แต่รอบถัดมา Hamilton ก็ถูกเรียกเข้ามาเปลี่ยนยางบ้าง ทำให้ตำแหน่งผู้นำกลับมาเป็น Russell อีกครั้ง โดยมี Sergio Perez ของทีม Red Bull Racing ตามหลังมาห่าง ๆ และ Verstappen ครองอันดับ 3 แต่ทีมก็เรียกให้สับตำแหน่งกันในรอบที่ 15
- ผ่านมา 16 รอบ รถของ Gasly ที่อุตส่าห์ทำเวลารอบคัดเลือกได้อย่างดี แต่เครื่องยนต์กลับพังซะก่อน ต้องออกจากการแข่งขันไปเป็นคันแรก และเป็นรอบเดียวกับที่ Sainz แซง Perez ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 แทน
- รอบที่ 26 รถของ Alexander Albon ของทีม Williams ก็ถูกสังเวยไปอีกคัน รถพังไปต่อไม่ได้ ต้องออกจากการแข่งขันไป
- รอบที่ 27 ทีม Ferrari สั่งสลับตำแหน่ง ให้ Leclerc แซง Sainz ขึ้นมา และเป็นรอบที่ Verstappen เข้ามาเปลี่ยนยางใหม่ด้วยเช่นกัน ออกมาเลยอยู่ที่ 5 ส่วน Sainz เปลี่ยนยางในรอบถัดมา ออกมาอยู่ที่ 6 เลยกลายเป็นว่า Leclerc ขึ้นไปอยู่ที่ 2 และ Norris ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3 นำหน้า Verstappen ที่อยู่อันดับ 4 แล้ว
- ผ่านมารอบที่ 31 Norris ถูกเรียกเข้ามาเปลี่ยนยาง ออกมาอยู่ที่ 7 ทำให้ Verstappen ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3 แทน รอบถัดมา Leclerc ถูกเรียกเข้ามาเปลี่ยนยาง ออกมาอยู่ที่ 5 และเป็นจังหวะที่ Hamilton แซง Verstappen ได้ ทำให้ขยับมาเป็นที่ 2 และรอบถัดมา Russell เข้ามาเปลี่ยนยางบ้าง เป็น Free Pit Stop ออกมาเลยยังนำเหมือนเดิม โดยนำเพื่อนร่วมทีมอยู่ 11 วินาที
- มาถึงรอบที่ 42 รถของ Max เริ่มแผ่ว โดน Sainz แซงเอาอันดับที่ 2 มาได้แล้ว
- ช่วงท้าย กลุ่มนำก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีแค่ Leclerc ที่แย่งอันดับ 4 มาจาก Max ได้ เลยจบด้วยการที่ Russell คว้าแชมป์สนามไป ตามมาด้วยเพื่อนร่วมทีมอย่าง Hamilton และ Sainz ในอันดับที่ 3 ส่วน Verstappen จบในอันดับที่ 5 ก็เพียงพอที่จะทำคะแนนสะสมคว้าแชมป์โลกไปได้อย่างเป็นทางการแล้ว เพราะ Norris จบเพียงอันดับที่ 6 ไม่สามารถทำคะแนนแซงได้ใน 2 สนามที่เหลือได้อย่างแน่นอน ซึ่งถือเป็นแชมป์โลก 4 สมัยติดของ Verstappen เลยทีเดียว
สรุปผลการแข่งขันรายการ FORMULA 1 HEINEKEN SILVER LAS VEGAS GRAND PRIX 2024
อันดับ | นักแข่ง | ทีม | คะแนน |
1 | George Russell | Mercedes | 25 |
2 | Lewis Hamilton | Mercedes | 18 |
3 | Carlos Sainz | Ferrari | 15 |
4 | Charles Leclerc | Ferrari | 12 |
5 | Max Verstappen | Red Bull Racing Honda RBPT | 10 |
6 | Lando Norris | McLaren Mercedes | 9 |
7 | Oscar Piastri | McLaren Mercedes | 6 |
8 | Nico Hulkenberg | Haas Ferrari | 4 |
9 | Yuki Tsunoda | RB Honda RBPT | 2 |
10 | Sergio Perez | Red Bull Racing Honda RBPT | 1 |
11 | Fernando Alonso | Aston Martin Aramco Mercedes | 0 |
12 | Kevin Magnussen | Haas Ferrari | 0 |
13 | Zhou Guanyu | Kick Sauber Ferrari | 0 |
14 | Franco Colapinto | Williams Mercedes | 0 |
15 | Lance Stroll | Aston Martin Aramco Mercedes | 0 |
16 | Liam Lawson | RB Honda RBPT | 0 |
17 | Esteban Ocon | Alpine Renault | 0 |
18 | Valtteri Bottas | Kick Sauber Ferrari | 0 |
*Pierre Gasly และ Alexander Albon ไม่จบการแข่งขัน
**Lando Norris ทำ Fastest Lap ได้ รับ 1 คะแนนพิเศษไป
ตารางคะแนนสะสมนักแข่ง การแข่งขัน F1 ฤดูกาล 2024
อันดับ | นักแข่ง | ทีม | คะแนน |
1 | Max Verstappen | Red Bull Racing Honda RBPT | 403 |
2 | Lando Norris | McLaren Mercedes | 340 |
3 | Charles Leclerc | Ferrari | 319 |
4 | Oscar Piastri | McLaren Mercedes | 268 |
5 | Carlos Sainz | Ferrari | 259 |
6 | George Russell | Mercedes | 217 |
7 | Lewis Hamilton | Mercedes | 208 |
8 | Sergio Perez | Red Bull Racing Honda RBPT | 152 |
9 | Fernando Alonso | Aston Martin Aramco Mercedes | 62 |
10 | Nico Hulkenberg | Haas Ferrari | 35 |
11 | Yuki Tsunoda | RB Honda RBPT | 30 |
12 | Pierre Gasly | Alpine Renault | 26 |
13 | Lance Stroll | Aston Martin Aramco Mercedes | 24 |
14 | Esteban Ocon | Alpine Renault | 23 |
15 | Kevin Magnussen | Haas Ferrari | 14 |
16 | Alexander Albon | Williams Mercedes | 12 |
17 | Daniel Ricciardo | RB Honda RBPT | 12 |
18 | Oliver Bearman | Haas Ferrari | 7 |
19 | Franco Colapinto | Williams Mercedes | 5 |
20 | Liam Lawson | RB Honda RBPT | 4 |
21 | Zhou Guanyu | Kick Sauber Ferrari | 0 |
22 | Logan Sargeant | Williams Mercedes | 0 |
23 | Valtteri Bottas | Kick Sauber Ferrari | 0 |
ตารางคะแนนสะสมทีมผู้สร้าง การแข่งขัน F1 ฤดูกาล 2024
อันดับ | ทีม | คะแนน |
1 | McLaren Mercedes | 593 |
2 | Ferrari | 557 |
3 | Red Bull Racing Honda RBPT | 544 |
4 | Mercedes | 382 |
5 | Aston Martin Aramco Mercedes | 86 |
6 | Alpine Renault | 49 |
7 | Haas Ferrari | 46 |
8 | RB Honda RBPT | 44 |
9 | Williams Mercedes | 17 |
10 | Kick Sauber Ferrari | 0 |
ข้อมูลและภาพจาก F1
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com