GM และ Ford ลดแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หันมาผลิตรถใหม่ครื่องยนต์สันดาปภายในเพิ่มขึ้นแทน

Ford และ GM ได้ทุ่มเงินหลายพันล้านไปกับการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแล้ว แต่ทั้งสองบริษัทกำลังลดทอนแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าลง หลังจากตระหนักว่าผู้ซื้อยังไม่สนใจมากนัก

2 ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ จากดีทรอยต์ ทั้ง Ford และ General Motors กำลังหันกลับไปสู่สิ่งที่พวกเขาและลูกค้าคุ้นเคยและชื่นชอบ นั่นคือรถกระบะขนาดใหญ่ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยในสัปดาห์นี้ GM ประกาศเลื่อนแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่โรงงาน Orion Assembly ในดีทรอยต์เป็นครั้งที่สอง ซึ่งเป็นโรงงานที่มีแผนจะผลิต Chevrolet Silverado EV รุ่นใหม่ โรงงานนี้ซึ่งเคยถูกเลื่อนกำหนดมาแล้วครั้งหนึ่ง เดิมมีกำหนดจะเริ่มผลิตรถกระบะ Ultium ในช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ตอนนี้จะไม่เริ่มผลิตจนกว่าจะถึงกลางปี 2026 โดยมีการอ้างคำพูดของ Mary Barra CEO ของ GM ที่แจ้งต่อนักวิเคราะห์ การเลื่อนแผนการผลิตที่โรงงาน Orion ไปถึงปี 2026 หมายความว่า GM จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 1 ล้านคันภายในสิ้นปี 2025 ได้ ซึ่ง Barra ได้ยอมรับไปก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม

การเปิดเผยของ GM เกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ Ford ยืนยันว่าจะใช้โรงงาน Oakville ในรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา เพื่อผลิตรถกระบะ Super Duty แบบดั้งเดิม แทนที่จะเป็นรถ SUV ไฟฟ้า Explorer และ Lincoln Aviator ตามแผนเดิม ในทางตรงกันข้ามกับรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งมีต้นทุนการผลิตสูงและขายยาก รถกระบะ Super Duty ของ Ford มีอัตรากำไรสูงและเป็นที่ต้องการอย่างมาก โดย Jim Farley CEO ของบริษัทได้แจ้งต่อผู้สื่อข่าวในเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า บริษัทสามารถขายรถกระบะทุกคันที่ผลิตได้เป็นสองเท่า Ford กำลังลงทุน 3 พันล้านดอลลาร์เพื่อปรับปรุงโรงงาน Oakville สำหรับบทบาทใหม่นี้ ซึ่งจะช่วยรักษาตำแหน่งงานของคนงาน 1,800 คนที่เริ่มกังวลเมื่อมีการประกาศว่าการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะถูกเลื่อนออกไปจนถึงปี 2027

ข้อมูลจาก Carscoops