สหรัฐฯ คาดว่าจำนวนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจะแซงหน้าปั๊มน้ำมันภายใน 8 ปี

หลังจากที่เราเริ่มได้เห็นราคารถไฟฟ้าใหม่ใกล้เคียงกับราคารถเครื่องยนต์ปกติไปแล้ว ล่าสุดมีรายงานออกมาว่า เราอาจได้เห็นสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแซงหน้าปั๊มน้ำมันได้ภายใน 8 ปีที่สหรัฐฯ

ในไตรมาสที่สองของปีนี้ สหรัฐอเมริกาได้เห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะ โดยมีการเปิดให้บริการสถานีชาร์จเร็วใหม่ถึง 704 แห่ง เพิ่มขึ้น 9% ในเวลาเพียง 3 เดือน ตามการวิเคราะห์ข้อมูลจากกระทรวงพลังงานโดย Bloomberg Green ปัจจุบันมีสถานีชาร์จเร็วสาธารณะเกือบ 9,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งหากอัตราการเติบโตนี้ยังคงดำเนินต่อไป คาดว่าภายในเวลาประมาณ 8 ปี จำนวนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะจะมากกว่าจำนวนปั๊มน้ำมันในสหรัฐฯ และแนวโน้มนี้มีแต่จะเร่งตัวขึ้นเรื่อย ๆ ตามการประมาณการของ BloombergNEF ผู้ประกอบการในอเมริกาเหนือจะลงทุนรวมกันถึง 6.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากปี 2023 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอีกครั้งภายในปี 2030

ซารา ราฟาลสัน รองประธานบริหารของ EVgo Inc. ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสถานีชาร์จเกือบ 1,000 แห่งในสหรัฐฯ กล่าวว่า "เรากำลังเห็นความต้องการสถานีชาร์จเร็วพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เรากำลังสร้างสถานีที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อตามให้ทันกับความต้องการนั้น"

ผู้ค้าปลีกหลายรายกำลังเพิ่มจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อดึงดูดลูกค้าที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งคิดเป็นเกือบ 10% ของผู้ซื้อรถในสหรัฐฯ โดยเฉพาะผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันที่กำลังปรับตัวรับกระแสรถยนต์ไฟฟ้า ในไตรมาสที่สอง Shell เปิดสถานีชาร์จใหม่ 30 แห่ง Enel เปิด 11 แห่ง Pilot Travel Centers เปิด 8 แห่ง และอีก 7 แห่งเปิดที่จุดพักรถ Flying J

แม้จะมีการพูดถึงการชะลอตัวของความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ แต่ผู้ค้าปลีกมีเหตุผลที่ดีในการมองว่าจุดชาร์จเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้า เนื่องจากมีผู้ขับขี่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในเดือนเมษายน ทบวงพลังงานระหว่างประเทศคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในสหรัฐฯ จะพุ่งสูงถึง 2.5 ล้านคันในปี 2025 จาก 1.1 ล้านคันในปีที่แล้ว

ข้อมูลจาก Autoblog