BMW ประกาศยุติการใช้งานปุ่ม iDrive Knob หลังผ่านการใช้งานมากว่า 2 ทศวรรษ
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 29 ม.ค. 68 16:44
- 1,676 อ่าน
BMW ได้ประกาศยุติการใช้งานปุ่มควบคุม iDrive Knob ที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์มานานกว่า 20 ปี หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในรถรุ่น 7 Series รุ่น E65/E66 ในปี 2001 โดยการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการเปิดตัวระบบ Panoramic iDrive แบบใหม่ ซึ่งจะใช้การควบคุมผ่านหน้าจอสัมผัสและเสียงแทนที่ปุ่มควบคุมแบบเดิม
สาเหตุที่ BMW ตัดสินใจยกเลิก iDrive Knob
Joern Freyer หัวหน้าฝ่ายการปฏิสัมพันธ์ผู้ใช้ของ BMW เปิดเผยว่า การตัดสินใจครั้งนี้มาจากข้อมูลการใช้งานที่แสดงให้เห็นว่าผู้ขับขี่หันมาใช้การควบคุมผ่านหน้าจอสัมผัสมากขึ้น ในขณะที่ปุ่ม iDrive Knob ถูกใช้งานน้อยลง ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการออกแบบระบบ iDrive เวอร์ชันล่าสุด (8, 8.5 และ 9) ที่ปรับเปลี่ยนอินเทอร์เฟซให้เหมาะกับการควบคุมผ่านการสัมผัสมากกว่าการใช้ปุ่มหมุน
Freyer กล่าวว่า "การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเรา แต่ข้อมูลการใช้งานเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าผู้ขับขี่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น"
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบอินโฟเทนเมนต์ของ BMW
การยกเลิก iDrive Knob เป็นส่วนหนึ่งของการอัปเกรดสู่ Operating System X ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดของ BMW โดยระบบนี้จะเน้นการควบคุมผ่านหน้าจอสัมผัสและเสียงเป็นหลัก ทำให้ BMW ไม่จำเป็นต้องออกแบบซอฟต์แวร์ให้รองรับการควบคุมสองรูปแบบอีกต่อไป
นอกจากนี้ BMW ยังประกาศยกเลิกระบบ Gesture Control หรือการควบคุมด้วยท่าทาง ซึ่งเคยถูกวิจารณ์ว่ายุ่งยากและไม่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้งาน Freyer อธิบายว่า "ผู้คนไม่ค่อยใช้ระบบนี้มากพอที่จะทำให้มันมีอยู่ในระบบอินโฟเทนเมนต์รุ่นต่อไป"
ผลกระทบและข้อดีของการเปลี่ยนแปลง
การยกเลิก iDrive Knob และ Gesture Control นอกจากจะช่วยลดความซับซ้อนในการออกแบบแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อีกด้วย เนื่องจากปุ่ม iDrive Knob เคยถูกผลิตจากวัสดุหลากหลายประเภท ตั้งแต่พลาสติกธรรมดาไปจนถึงแก้วคริสตัลที่ดูหรูหรา
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อผู้ใช้งานที่คุ้นเคยกับการควบคุมแบบเดิม โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบความหลากหลายในการควบคุมระบบอินโฟเทนเมนต์ ซึ่งปุ่ม iDrive Knob เคยเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในตลาด
อนาคตของระบบอินโฟเทนเมนต์ในรถ BMW
ด้วยการอัปเกรดสู่ระบบ Panoramic iDrive และ Operating System X BMW กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ โดยเน้นความสะดวกสบายและความทันสมัยผ่านการควบคุมแบบสัมผัสและเสียง ซึ่งคาดว่าจะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น
แม้การเปลี่ยนแปลงนี้จะสร้างความประหลาดใจให้กับแฟนๆ BMW แต่ก็เป็นไปตามแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังมุ่งสู่การใช้งานเทคโนโลยีที่ทันสมัยและตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคดิจิทัลมากขึ้น.
ข้อมูลจาก Caranddriver
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com