ANCAP เตรียมปรับมาตรฐานการทดสอบระบบความปลอดภัยใหม่ในปี 2026 เน้นประสิทธิภาพและความสะดวกในการใช้งาน

องค์กรประเมินความปลอดภัยรถยนต์ใหม่แห่งออสตราเลเชีย (ANCAP) เตรียมปรับเกณฑ์การทดสอบความปลอดภัยครั้งใหญ่ในปี 2026 โดยจะไม่เพียงตรวจสอบการมีอยู่ของระบบความปลอดภัยเท่านั้น แต่จะรวมถึงประสิทธิภาพการทำงานและความรำคาญที่อาจเกิดกับผู้ขับขี่ด้วย

นาง Carla Hoorweg ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ANCAP เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงนี้มาจากกรณีที่หลายแบรนด์มีการอัพเดทระบบความปลอดภัยหลังจากผ่านการทดสอบแล้ว เช่น:
- Mitsubishi ปรับปรุงระบบตรวจจับผู้ขับขี่ในรถกระบะ Triton หลังได้รับการร้องเรียนว่าระบบแทรกแซงการขับขี่มากเกินไป
- Ford ปรับความไวของระบบในรถรุ่น Ranger และ Everest หลังได้รับฟีดแบ็คจากลูกค้า

การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่จะเกิดขึ้น:
- ผู้ผลิตต้องแจ้ง ANCAP ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงระบบที่เคยผ่านการทดสอบ
- จะมีการประเมินระบบช่วยเหลือการขับขี่ในเลน (Lane Support Systems) อย่างเข้มงวดมากขึ้น
- พิจารณาทั้งประสิทธิภาพการทำงานและผลกระทบต่อการใช้งานจริงของผู้ขับขี่

Euro NCAP ซึ่งเป็นพันธมิตรของ ANCAP ได้เสนอการปรับปรุงเกณฑ์การทดสอบในปี 2026 ในหลายด้าน เช่น:
- การตรวจจับการใช้แอลกอฮอล์/ยาเสพติดของผู้ขับขี่
- การปรับปรุงระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) ให้ทำงานเร็วขึ้น
- การตรวจสอบการมีส่วนร่วมของผู้ขับขี่
- ระบบหลีกเลี่ยงการชนที่ความเร็วต่ำ

ตัวอย่างผลกระทบจากมาตรฐานใหม่เห็นได้จากการประเมินล่าสุดของ Euro NCAP เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา:
- BMW i5 และ Mercedes-Benz C-Class ได้รับการจัดอันดับ 'ดีมาก'
- BYD Atto 3 ถูกจัดอันดับ 'ไม่แนะนำ' เนื่องจากประสิทธิภาพของระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ไม่ดีพอ

ANCAP ระบุว่า รถยนต์ทุกรุ่นที่วางจำหน่ายสามารถถูกทดสอบได้ โดยผู้ผลิตสามารถเลือกที่จะส่งรถ 5-6 คันเพื่อทดสอบ หรือทาง ANCAP จะจัดซื้อเองเมื่อเริ่มมีการส่งมอบรถให้ลูกค้า ทั้งนี้ รถรุ่นปี 2026 บางรุ่นอาจได้รับการทดสอบในช่วงปลายปีนี้ก่อนที่มาตรฐานใหม่จะมีผลบังคับใช้

ข้อมูลจาก Drive