ผลสำรวจล่าสุดเผยชาวอเมริกัน 4 ใน 10 คน ที่อาจซื้อรถไฟฟ้าเป็นคันต่อไป

หลังจากที่ทางประธานาธิบดีโจ ไบเดนต้องการให้ครึ่งหนึ่งของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดเป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030 แต่ผลสำรวจล่าสุดโดย The Associated Press-NORC Center for Public Affairs Research และ Energy Policy Institute แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก 

ที่ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน 5,408 คน เผยว่า19% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ มีแนวโน้มมากที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับรถยนต์คันต่อไป และ 22% กล่าวว่ามีแนวโน้มค่อนข้างมาก ส่วน 47% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าไม่น่าจะเป็นไฟฟ้าสำหรับรถคันต่อไป

และการศึกษาพบว่า 8% ของชาวอเมริกันกล่าวว่าพวกเขาหรือคนที่พวกเขาอาศัยอยู่ด้วยเป็นเจ้าของหรือเช่ารถยนต์ไฟฟ้า และมีเพียง 8% ที่กล่าวว่าครอบครัวของพวกเขามีรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด 

โดยเหตุผลต่าง ๆ ในการตอบแบบสอบถามระบุไว้ว่า ประมาณ 60% อ้างถึงต้นทุนที่สูงของรถไฟฟ้า EV ครึ่งหนึ่งของการสำรวจระบุว่าสถานีชาร์จน้อยเกินไปเป็นสาเหตุหลัก รวมไปถึงเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ยังเป็นข้อกังวล บางคนยังชอบรถใช้น้ำมันอยู่ และอีกปัจจัยคือเรื่องเวลาในการชาร์จนาน

ด้านของ Kelley Blue Book เปิดเผยว่าต้นทุนเฉลี่ยของรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่มากกว่า 58,000 ดอลลาร์ ทำให้หลายครัวเรือนไม่สามารถเข้าถึงได้ แม้ว่าเครดิตภาษีของรัฐบาลกลางที่นำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชบัญญัติลดอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะมอบส่วนลดสูงสุดถึง 7,500 ดอลลาร์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ แต่เป็นรถยนต์บางรุ่นเท่านั้นที่มีสิทธิ์

ที่มา carscoops