อยากให้มาไทย!! 2022 Nissan Note Aura เก๋งท้ายตัดรุ่นล่า ดูดีล้ำกว่า สบายกว่าเพื่อการเดินทางที่เร้าใจ เริ่ม 741,000 บาท
- โดย : Autodeft
- 16 มิ.ย. 64 00:00
- 7,847 อ่าน
หลังจากที่ Nissan Note เจเนอเรชั่นใหม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ญี่ปุ่นไป ทำให้สาวกเพื่อนที่แสนดีต่างถามถึงว่า Nissan Note จะมีอะไรที่เป็นพิเศษๆหรือไม่
ล่าสุด นิสสัน เปิดตัว Nissan Note Aura เก๋งท้ายตัดที่นำ Nissan Note เวอร์ชั่นปกติ (เจน 3) มาตกแต่งอัพเกรดตัวเองเพื่อสามารถสู้คู่แข่งกลุ่ม C-Hatchback ได้อย่างสบายๆ หน้าตาเปลี่ยนไปจากเดิมด้วยชุดกระจังหน้า V-motion รูปทรง “โล่ หรือ shield” อันเป็นสัญลักษณ์แบบเดียวกับ Nissan Ariya ประกบกับไฟหน้า ultra-thin LED headlights และไฟเลี้ยว LED sequential turn lamps ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 17 นิ้ว พร้อมยาง 205/50 R17 พร้อมด้านท้ายเท่ด้วยไฟท้ายแบบเดียวกับ Note ด้วย LED รมดำ และหลังคาสีดำ ขนาดตัวรถใกล้เคียงกับ Nissan Note เจนใหม่แต่มีการขยายมิติเล็กน้อยด้วยความยาว 4,045 มม. ความกว้าง 1,735 มม. ความสูง 1,505 มม. ฐานล้อ 2,580 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 130 มม. น้ำหนักรถ 1,260 – 1,645 กก.
ภายในยกชุดมาจาก Nissan Note มาทั้งหมด ตั้งแต่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน มาตรวัดขนาดใหญ่เป็นแบบ Full Digital LCD 12.3 นิ้ว พร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 9 นิ้ว รองรับระบบนำทาง ที่อยู่ในตำแหน่งเดียวกันไม่ละสายตาขณะขับขี่ สบายด้วยเบาะนั่ง 5 ที่นั่ง แบบ Zero Gravity คั่นกลางด้วยกล่องคอนโซลกลางแนวยาวเป็นชิ้นเดียวเสริมความสวยงามลงตัว และที่ยั่งด้านหลีงขนาดใหญ่โล่งโปร่งสบาย และพิเศษยังมีออพชั่นเครื่องเสียง Bose ที่สามารถติดตั้งลำโพงฝังไว้ที่หัวหมอนศรีษะ Bose Personal Plus เป็นออพชั่นเสริม รวมถึงบุฉนวนเพิ่มขึ้นที่หลังคาและประตู เพิ่มความเงียบในห้องโดยสารมากขึ้น
ขุมพลังสำหรับยกชุดมากจาก Nissan Note ด้วยขุมพลัง e-Power เบนซิน HR12DE 1.2 ลิตร 82 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 103 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที จับคู่กับชุดแบตเตอร์รี่ Lithium-ion ขนาด 1.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง พ่วงเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้ารหัส EM47 จูนแรงม้ารวมมากกว่าเดิมเป็น 136 แรงม้าที่ 3,183-8,500 รอบ/นาที เพิ่มแรงบิดเป็น 300 นิวตันเมตรที่ 0-3,183 รอบ/นาที ทั้งรุ่งขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ และในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เสริมมอเตอร์ไฟฟ้า MM48 68 แรงม้าที่ 4,775-10,024 รอบ/นาที และแรงบิด 100 นิวตันเมตรที่ 0-4,775 รอบ/นาที เน้นการใช้มอเตอร์เป็นสำคัญ โดยเครื่องยนต์จะทำงานโดยใช้เพื่อการชาร์จไฟฟ้าไปยังแบตเตอร์รี่ แต่หากในช่วงความเร็วสูงมากนั้น ทางเครื่องยนต์จะปั่นไฟฟ้าจ่ายตรงให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าชุดขับ เพื่อสร้างประสิทธิภาพ สูงสุด และให้ความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้น
พร้อมความปลอดภัยเต็มคันภายใต้แนวคิดเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ในอนาคต Nissan Intelligent Mobility เบื่องต้น นิสสัน เตรียมจำหน่ายที่ญี่ปุ้นตั้งแต่ 23 ธันวาคมเป็นต้น จำหน่าย 2 รุ่นย่อหลักตั้งแต่รุ่น G กับ G Four และมีรุ่น Leather Edition มาด้วย ในราคาเริ่มต้น 2,613,300 - 2,957,900 yen หรือราว 741,000 – 839,000 บาท (ไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย) แต่ถ้านำเข้ามาขายไทยเริ่ม 2,130,000 – 2,411,000 บาท ขายจริงปลายปีนี้ านนี้จับตาเมืองไทยมีสิทธิ์ได้ไปต่อกับเจนใหม่หรือไม่ต้องติดตาม
ที่มา Carwatch
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com