ชมภาพ Official!! 2022 Nissan Kicks Facelift เอสยูวีหล่อใหม่ หล่อกว่าสเปกไทย จ่อเปิดตัวที่จีน 29 กันยายนนี้
- โดย : Autodeft
- 23 ก.ย. 64 00:00
- 8,539 อ่าน
หลังจากได้ชมภาพหลุดจากสื่อจีนกันมาแล้วสำหรับ Nissan Kicks เอสยูวีรุ่นปรับโฉม เตรียมที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 กันยายนนี้
ล่าสุดเว็บรถยนต์ Autohome เผยภาพอย่างเป็นทางการ Nissan Kicks Facelift จากทาง Dongfeng Nissan ที่หน้าตาไม่ต่างจากภาหลุดที่เคยนำเสนอไป หน้าตาที่ปรับโฉมปรับตามหลังเมืองไทย ญี่ปุ่น อเมริกา เม็กซิโก และบราซิล ตั้งแต่ กระจังหน้าแบบ V-motion พร้อมไฟเลี้ยวแบบบูมเมอแรง LED Signature Light ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED รวมถึงดีไซน์กันชนหน้า ออกแบบให้สปอร์ตขึ้นรวมถึงไฟตัดหมอกหน้า LED ที่เล็กลง ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED ทรงบูมเมอแรง แต่ในรุ่นปรับโฉมครั้งนี้ต่างตรงที่ได้ล้ออัลลอยลายใหม่สีทูโทน ขนาด 17 นิ้วพร้อมยางขนาด 205/55 R17 และยังมีขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 205/60R16 และแถบทับทิมขนาดยาวครอบทับฝาท้ายและไฟท้าย LED เด่นด้วยสัญลักษณ์ Nissan ทำให้ตัวรถเด่นขึ้น
ภายในคล้ายกับสเปกต่างประเทศที่จำหน่ายทั้ง แผงคอนโซลหน้า แผงหน้าปัดด้วยลายเส้นของแนวปีกเครื่องร่อนหรือ Gliding Wing ที่เรียบง่ายและทันสมัย โดดเด่นด้วยจอสี TFTแสดงผลบนหน้าปัดขนาด 7 นิ้ว เครื่องเสียงแบบจอสัมผัสขนาดใหญ่ให้เลือกขนาด 7 หรือ 8 นิ้ว Nissan Connect และลำโพงคุณภาพสูง 6 ตำแหน่ง พร้อมการเชื่อมต่อ AM / FM / Bluetooth / USB / AUX-in รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay (สำหรับระบบ iOS) พวงมาลัยสปอร์ตแบบมัลติฟังก์ชัน ทรง D-Shape ปรับสูงต่ำได้ กุญแจรีโมทอัจฉริยะ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push Start Button) สบายจากเบาะนั่ง 5 ที่นั่ง วัสดุหุ้มคอนโซลหน้าแบบ Soft Touch โดยเฉพาะตอน 2 สามารถพับได้แบบ 40/60 เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขนสัมภาระ
ขุมพลังงานนี้เมืองจีนใช้เครื่องยนต์เบนซินล้วนขนาด 1.5 ลิตร รุ่น HR15DE ให้กำลังสูงถึง 122 แรงม้าที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิด 143 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับระบบส่งกำลังทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ CVT
การปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 4 ปีของการจำหน่ายที่จีน สำหรับ Nissan Kicks Facelift เตรียมเปิดตัวที่เมืองจีนตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนนี้ ผ่านตัวแทน Dongfeng Nissan ส่วนเมืองไทยจะมีโอกาสแก้เกมดันยอดขายให้ดีขึ้นกว่าเดิมหรือปรับการสื่อสารให้ตรงจุดมากขึ้นหรือไม่นั้นต้องติดตาม
ที่มา Autohome
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com