2022 Mitsubishi Outlander PHEV เอสยูวีพลังเสียบปลั๊กเจนใหม่ เผยตัวจริง 28 ตุลาคม นี้

หลังเผยตัวจริงที่อเมริกาได้ไม่นาน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประกาศอย่างเป็นทางการว่าพร้อมที่จะเปิดตัว Mitsubishi Outlander เจนใหม่เวอร์ชั่น Plug In Hybrid และเป็นการเปิดตัวที่แรกของโลกที่เป็นขุมพลังเสียบปลั๊ก

หน้าตาไม่ต่างจากเวอร์ชั่นเครื่องยนต์สันดาปใหม่หมด สไตล์ Dynamic Shield ตั้งแต่ไฟหน้า Daytime LED เรียวเล็กรับกับกันชนหน้าแบบสปอร์ตมีคิ้วชายล่างในตัว พร้อมไฟหรี่ ไฟสูง ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED ติดตั้งมาให้ ยาวจรดด้านท้ายกับแนวของโคมไฟหลัง LED แนวนอนเรียวเล็ก และเสา D ขนาดใหญ่แบบเดียวกับรถต้นแบบ ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 นิ้ว

ภายในล้ำสมัยหุ้มด้วยวัสดุหนังสัมผัส พร้อม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 4 ก้าน มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว จอสัมผัสตรงกลางขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto และ wireless Apple CarPlay ถัดลงมาเป็นช่องแอร์แนวยาว กับเครื่องปรับอากาศแยกโซน 3 ส่วน พร้อมจอแสดงข้อมูลเหนือคอนโซลหน้า full-color Head-Up Display (HUD) ขนาด 10.8 นิ้ว กับลำโพงคุณภาพ 10 จุด จาก Bose และเอกลักษณ์กับห้องโดยสารมากถึง 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่ตอน 2 พับได้แบบ 40:20:40 และตอน 3 พับได้แบบ 50:50 การตกแต่งภายในแบบวัสดุอลูมิเนียมรวมถึงเบาะหนังคุณภาพ เป็นต้น

ขุมพลังอาจยกชุดมาจากเจนที่แล้วด้วยเครื่องยนต์เบนซิน MIVEC 2.4 ลิตร Atkinson cycle 4B12 128 แรงม้าที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิด 199 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว สูงถึง 82 แรงม้า แรงบิด 137 นิวตันเมตรในมอเตอร์ตัวหน้า และ 95 แรงม้า แรงบิด 195 นิวตันเมตรในมอเตอร์ตัวหลัง เชื่อมต่อกับระบบแบตเตอร์รี่ลิเธียมไอออนขนาดใหม่ 13.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้กำลังรวมสูงสุด 305 แรงม้า อีกทั้งการวิ่งด้วย Plug-in hybrid (EV) ทำระยะทางได้ถึง 55 กิโลเมตร และการชาร์จด้วยกระแสไฟ 230V ภายในเวลา 4 ชั่วโมงพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่พัฒนาใหม่โดยเฉพาะอย่าง Super-All Wheel Control จากเดิมจะมี 4 โหมด ทั้ง โหมด 4WD Lock, โหมด Snow , โหมด Normal ,และโหมด Sport แต่งานนี้เพิ่มมาอีก 3 โหมดรวมเป็น 7 โหมดให้การขับขี่ที่มั่นใจและปลอดภัยในสภาพถนนที่แตกต่างกัน

เบื่องต้นการเปิดตัว รถยนต์ใหม่ 2022 อย่าง Mitsubishi Outlander PHEV เจนใหม่จะเปิดตัวที่ญี่ปุ่น 28 ตุลาคมนี้ และขายจริงกลางเดือนธันวาคม นี้ ส่วนอเมริกาพบกันครึ่งปีหลังของปีหน้า

ที่มา Carscoops

 

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com