2022 Mazda CX-50 เอสยูวีใหม่หมด อาจเผยตัวจริงในปีหน้า

นับเป็นข่าวดีของมาสด้า เตรียมที่จะขยายสินค้าในกลุ่มรถเอสยูวี ให้สาวกได้รู้จักและเป็นเจ้าของที่สุดเอสยูวีหรู ตอบโจทย์เทรนของโลกที่หันมานิยมใช้รถประเภทนี้มากขึ้น

โดย มาสด้า ประกาศมาว่า เตรียมขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มรถอสยูวี และจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป ประเดิมด้วย All New Mazda CX-50 เพิ่มเติมเข้ามาเป็นโมเดลหลักรุ่นใหม่ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงซิกเนเจอร์วิง พร้อมไฟหน้า Projector แบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED Signature และไฟท้ายวงกลม LED ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 กับ 20 นิ้ว ท่อไอเสียขนาดใหญ่ ด้านภายในหรูตามสไตล์ มาสด้า ด้วยเบาะนั่งหนังแท้ Nappa พร้อมหน้าปัดดีไซน์หรูเอกลักษณ์เฉพาะและระบบความบันเทิง Mazda Connect และเลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ AWD

แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายว่า All New Mazda CX-50 จะขายเฉพาะตลาดอเมริกาเท่านั้น โดย Mazda บอกว่า เป็นรุ่นที่อยู่ใน3กลุ่มผลิตภัณฑ์ขนาดเล็ก (Small Product group3) เช่นเดียวกับ Mazda 3 และ Mazda CX-30 โดยจะเริ่มทำการผลิต ในเดือนมกราคม 2022 ณ โรงงานแห่งใหม่ โดยความร่วมมือกันระหว่างมาสด้ากับโตโยต้า หรือ โรงงานมาสด้า โตโยต้า แมนูแฟคเจอริ่ง สหรัฐอเมริกา (MTMUS) ณ เมืองฮัลต์สวิลล์ มลรัฐอลาบาม่า เท่ากับว่าไทยและทั่วโลก หมดสิทธิ์

 

แต่ไม่ต้องเสียใจตั้งแต่ปี 2022 ถึง ปี 2023 มาสด้า ยังมี รถเอสยูวีที่จ่อเปิดตัวสำหรับทั่วโลกและรวมถึงเมืองไทยด้วย กับ All New Mazda CX-60 5 ที่นั่ง , All New Mazda CX-70 เอสยูวีขนาดใหญ่ 5 ที่นั่ง, All New Mazda CX-80 7 ที่นั่ง และ All New Mazda CX-90 เอสยูวีขนาดใหญ่ 7 ที่นั่ง โดย Mazda ให้เหตุผลว่ารุ่นเหล่านี้เป็นรถที่มีช่วงราคากว้างกว่า All New Mazda CX-50 หรือ CX-5 รุ่นปัจจุบัน พร้อมขุมพลังเบนซินล้วน ดีเซลล้วน ทั้งแบบ 4 กับ 6 สูบแถวเรียงทั้งเบนซิน SKYACTIV-X ดีเซล SKYACTIV-D ทั้งคู่มาพร้อมระบบ Mild Hybrid ขนาด 48V เพื่อให้ได้สมรรถนะที่สูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเสียบปลั๊กแบบ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด 4 สูบแถวเรียง ที่ทำงานผสานกับการขับเคลื่อนจากมอเตอร์ พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ แบบ 6 สูบแถวเรียงสำหรับตลาดอเมริกา งานนี้จับตาแล้วรถยนต์เอสยูวีรุ่นใหม่จากเมือง ฮิโรชิม่า จะตอบโจทย์สำเร็จหรือไม่ต้องติดตาม

ที่มา Mazda

 

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com