2022 Mazda BT-50 ปิกอัพไสตล์หรูเสริมทางเลือกด้วยเครื่อง 1.9 ลิตร สู้คู่แข่งที่แดนจิงโจ้
- โดย : Autodeft
- 21 ก.ย. 64 00:00
- 10,719 อ่าน
หลังจากที่แฝดผู้พี่อย่าง ISUZU D-MAX เสริมทางเลือกด้วยเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ออกมาจนเป็นที่ยอมรับและตรงใจสิงห์รถปิกอัพชาวออสเตรเลียเป็นแน่แท้จนล่าสุดแฝดผู้น้องอย่าง Mazda BT-50 เสริมทางเลือกเช่นกันกับแฝดผู้พี่
หน้าตายังคงเดิมในสไตล์ Kodo Design เริ่มที่ กระจังหน้าทรงซิกเนเจอร์วิง พร้อมไฟหน้า Projector แบบ LED ทรงเรียวแบนแบบ กันชนหน้าหรูหราแฝงสปอร์ตพร้อมไฟตัดหมอกหน้าแนวตั้ง มาพร้อมล้อที่มีให้เลือกตั้งแต่ ล้ออัลลอยและกระทะล้อขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 255/65 R17 และ ล้ออัลลอยดีไซน์คุ้นเคย 5 ก้านคู่และลายเข้มขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 ไฟท้าย LED รับกับฝากระบะท้ายดีไซน์สปอร์ต พร้อมกันชนหลังโครเมี่ยมใหม่ ดีไซน์ดูเรียวขึ้นอย่างชัดเจน
ภายในมีความคล้ายกับรถเก๋ง Mazda ผสมกับความเป็น ISUZU ที่เป็นต้นฉบับตั้งแต่หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 7 กับ 9 นิ้ว รองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto ระบบเสียงรอบทิศทาง Dynamic Surround Sound 8 ลำโพง พร้อมออฟชั่นอื่นๆ เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกโซนซ้าย-ขวา พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง แบบ Tilt & Telescopic เบาะนั่งคู่หน้าลดความเมื่อยล้า พร้อมระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางในตำแหน่งที่นั่งคนขับ ช่องแอร์ด้านหลัง
เพิ่มรุ่นเครื่องยนต์ใหม่เร้าใจแรงและประหยัดด้วยดีเซลเทอร์โบแปรผัน 1.9 ลิตร RZ4E-TC ให้กำลัง 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อม Genius Sport Shift และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic จากเดิมจะมีแค่เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน รุ่น 4JJ3-TCX 3.0 ลิตร 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูง 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที พร้อม E-VGS TURBO เทอร์โบแปรผันปรับไฟฟ้า จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อม Genius Sport Shift และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อยกสูงและขับเคลื่อนสี่ล้อ PartTime 4WD Terrain Command ระบบเฟืองท้ายแบบ Electronic Diff-lock และพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า
ระบบความปลอดภัยรอบคันทั้ง ระบบหยุดรถอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ LDWS (Lane Departure Warning System) ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System) ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) ระบบช่วยชะลอความเร็ว Secondary Collision Reduction ระบบ Speed Assist System ระบบแจ้งเตือนการเหนื่อยล้า Attention Assist ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AUTOMATIC HEADLIGHTS & HIGH BEAMS ถุงลมนิรภัยรอบคัน 8 จุด รวมถุงลมนิรภัยคั่นกลางระหว่างเบาะหน้ากับใต้เข่าคนขับ ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินขณะกำลังเลี้ยว TA (Turn Assist) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน BSM (Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมการทรงตัว DSC ระบบป้องการลื่นไหล TCS ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist) และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control)
Mazda BT-50 รุ่นเคริ่องยนต์ 1.9 ลิตร จำหน่ายในรุ่นใหม่เกรด XS กับ XT ขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง ทั้งแบบตอนเดียว Freestyle Cab และ Double Cab เกียร์อัตโนมัติเท่านั้น ส่วนรุ่น XT, XTR, GT และ Thunder ยังเป็นเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ทั้งแบบตอนเดียว Freestyle Cab และ Double Cab ขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง และขับเคลื่อน 4 ล้อ นอกจากนี้ยังแนะนำรุ่นใหม่ SP ที่เป็นรุ่นแทรกกลางระหว่างรุ่น GT และ Thunder ตกแต่งพิเศษทั้ง กระจังหน้าสีดำ, กระจกมองข้างสีดำ, ล้อซาตินสีดำขนาด 18 นิ้ว, บันไดข้างสีเทาเข้ม, เบาะกึ่งหนังแท้แบบ Driftwood และการตกแต่งภายในด้วยหนังกลับสังเคราะห์สีดำ ฝาครอบทูนโนสีดำ ฝาครอบถังน้ำมัน และสปอร์ตบาร์สีดำเงาจำหน่ายเฉพาะกับเครื่องยนต์ 3.0 ลิตรเท่านั้น
โดยราคาจำหน่ายรถยนต์ใหม่ 2022 ทาง มาสด้า ออสเตรเลียจะเผยอีกครั้ง
ที่มา Drive
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com