2022 ISUZU D-MAX Improvement ปรับปรุงใหม่ปิกอัพพลิกโลกพร้อมทางเลือกใหม่เพิ่มรุ่น 1.9 ลิตร ที่แดนจิงโจ้

ทำตลาดมาเกือบ 2 ปีจนสร้างยอดขายติดท็อปทรีปิกอัพที่ขายดีสุดในออสเตรเลียสำหรับ ISUZU D-MAX ปิกอัพยอดนิยมประสบความสำเร็จมาแล้วทั่วโลกและเป็น Global Product ของ อีซูซุ ที่สร้างกำไรมายาวนาน

ล่าสุด ISUZU UTE เปิดตัว ISUZU D-MAX รุ่นปรับปรุงใหม่ โดยไฮไลต์มีการเพิ่มรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน 1.9 ลิตร RZ4E-TC ให้กำลังมากกว่าไทยตั้ง 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อม Genius Sport Shift และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic จากเดิมจะมีแค่เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน รุ่น 4JJ3-TCX 3.0 ลิตร 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูง 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที พร้อม E-VGS TURBO เทอร์โบแปรผันปรับไฟฟ้า จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อม Genius Sport Shift และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อยกสูงและขับเคลื่อนสี่ล้อ PartTime 4WD Terrain Command ระบบเฟืองท้ายแบบ Electronic Diff-lock และพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า

สำหรับ ISUZU D-MAX รุ่นปรับปรุงใหม่ (MY2022) มีการเพิ่มรุ่นถึง 6 รุ่นย่อย ตั้งแต่รุ่นSingle Cab SX แบบ Cab Chassis 1.9 ลิตร เกียร์ธรรมดา, รุ่น Single Cab SX แบบ Cab Chassis 1.9 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ, รุ่น Spacecab SX แบบ Cab Chassis 3.0 เกียร์อัตโนมัติ, รุ่น Double Cab แบบ Cab Chassis 3.0 LS-M 4x4 เกียร์อัตโนมัติ, รุ่น Double Cab แบบ Cab Chassis 3.0 LS-U 4x4 เกียร์อัตโนมัติ และรุ่น Double Cab 3.0 LS-U+ 4x4 เกียร์อัตโนมัติ (ยกเลิก 2 รุ่น ได้แก่ Spacecab SX 3.0 ยกสูงเกียร์อัตโนมัติ และรุ่น Double Cab SX 3.0 4x4 เกียร์ธรรมดา)

นอกจากการเพิ่มรุ่นมาอีก 6 รุ่น ยังมีการเพิ่มออพชั่นในบางรุ่น เช่นระบบอุ่นเบาะคู่หน้า กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ เบาะนั่งกึ่งหนังแท้และการตกแต่งหนังสัมผัสสีดำเดินด้ายสีแดง กระจกมองข้างแบบมี Heater จุดติดตั้งพ่วงท้ายรถ ในรุ่นท็อป X-Terrain ส่วนรุ่น Double Cab LS-U+ 4x4 เช่นระบบอุ่นเบาะคู่หน้า กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ ปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 จุด ด้านคนขับและการตกแต่งหนังสัมผัสสีดำ กระจกมองข้างแบบมี Heater จุดติดตั้งพ่วงท้ายรถ จอสัมผัส 9 นิ้ว ปุ่ม Push Start และกุญแจ Smart Key และพื้นปูกระบะท้าย และรุ่น Double Cab LS-U เพิ่ม กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ จุดติดตั้งพ่วงท้ายรถ จอสัมผัส 9 นิ้ว ปุ่ม Push Start และกุญแจ Smart Key รุ่น Double Cab LS-M เพิ่ม ระบบ Parking Aid System พร้อมเซ็นเซอร์กะระยะ 4 จุดด้านหลัง

ระบบความปลอดภัยให้มากกว่าเวอร์ชั่นไทยด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้สามารถขับรถได้อย่างปลอดภัย IDAS (ISUZU’s Intelligent Driver Assistance System) ทั้ง ระบบเตือนการชนด้านหน้าและหยุดรถอัตโนมัติ FCW & AEB (Front Forward Collision Warning & Autonomous Emergency Brake) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ LDWS (Lane Departure Warning System) ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System) ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อมระบบจำกัดความเร็วอัจฉริยะ ISL (Intelligent Speed Limter) ระบบอ่านป้ายจราจร TSR (Traffic Sign Recognition) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วคราวในกรณีเผลอเหยียบคันเร่งโดยไม่ได้ตั้งใจ MAM (Mis Acceleration Mitigation) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AUTOMATIC HEADLIGHTS & HIGH BEAMS ถุงลมนิรภัยรอบคัน 8 จุด รวมถุงลมนิรภัยคั่นกลางระหว่างเบาะหน้ากับใต้เข่าคนขับ ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินขณะกำลังเลี้ยว TA (Turn Assist) และระบบแจ้งเตือนการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ AA (Attention Assist)

จากเดิมจะมีทั้ง ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน BSM (Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) พร้อมระบบความปลอดภัยครบถ้วนทั้ง ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมการทรงตัว ESC ระบบป้องการลื่นไหล TCS ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist) HDC (Hill Descent Control) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ESS (Emergency Stop Signal) ระบบเปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกระทันหัน ระบบ Parking Aid System พร้อมเซ็นเซอร์กะระยะ 8 จุดรอบคัน

ISUZU D-MAX มีให้เลือกทั้งแบบตอนเดียว แค็ปตอนครึ่ง และ 4 ประตู ทั้งแบบกระบะท้ายมาตรฐานและกระบะเรียบ แบ่งเป็น 4 เกรดตั้งแต่รุ่นถูก SX, LS-M, LS-U, LS-U+ และรุ่นแต่ง X-TERRAIN มีทั้งหมด 24 รุ่นย่อย เริ่มต้น $31,200 - $62,900 รวมค่า on-road หรือราว 739,000 – 1,561,,000 บาท (ไม่รวมภาษีของเมืองไทย)

 

ที่มา Whichcar

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com