2022 Honda Civic Sedan เก๋งยอดนิยมเจนใหม่ เปิดตัวหลังเมืองไทยพร้อมพลัง Turbo 129 แรงม้าที่สิงคโปร์

พึ่งจะเปิดตัวในเมืองไทยได้ไม่นานและเริ่มมีประชากรวิ่งบนท้องถนนกันแล้วสำหรับ All New Honda Civic Sedan เจเนอเรชั่นที่ 11 ล่าสุด สิงคโปร์ เป็นประเทศที่สี่ต่อจาก อเมริกา ญี่ปุ่น และไทย เป็นประเทศที่สามต่อจากญี่ปุ่นและไทยที่เปิดตัวในเวอร์ชั่นพวงมาลัยชวาและเป็นประเทศที่สองของทวีปอาเซี่ยนต่อจากไทย ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

หน้าตาของสเปกแดนลอดช่องนั้นไม่ต่างกันโดยนำรุ่น EL หรือ EL + สเปกไทย มาตกแต่งเสริมออพชั่นให้ถูกจริตชาวสิงคโปร์เริ่มที่ ไฟหน้ารถเป็นแบบ Projector พร้อมไฟ LED Daytime ในโคมเดียวกันกันชนหน้าทรงสปอร์ตเท่ไฟตัดหมอกหน้า พร้อมกระจกแบบโอเปร่าให้ความหรูแนวเดียวกับรถยุโรปชั้นนำ พร้อมหลังคารถที่ลาดลงดุจรถสปอร์ตไฟท้าย LED แบบ C Line พร้อมท่อไอเสีย ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 215/55R16 กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงสปูน กรอบกระจกโครเมี่ยม เสาอากาศครีบฉลาม ที่เปิดประตูมาพร้อมช่องเสียบกุญแจที่ย้ายไปไว้ด้านในมือจับเพื่อสอดคล้องกับการทำงานของระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ

ภายในสปอร์ตเรียบหรูด้วยแผงคอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่าย ช่องแอร์เป็นแนวยาวในช่องคอนโซลกลาง มาตรวัดดิจิทัลพร้อมระบบแสดงข้อมูล TFT 7 นิ้ว รวมถึงการตกแต่งเน้นหรูด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้ และผิวสัมผัสหุ้มหนัง ผสมผสานการตกแต่งสีดำเปียโนแบล็ก ระบบ Push Start พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน แต่ออพชั่นบางรายการที่ให้เหนือกกว่ารุ่น EL,EL+ สเปกไทยนั่นคือ ระบบความบันเทิงแบบจอสัมผัส 9 นิ้ว อยู่ตำแหน่งเหนือคอนโซลหน้า แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และที่เหนือกว่านั้นมี ระบบระบบชาร์จมือถือไร้สาย wireless charging เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 และช่องแอร์ด้านหลังเป็นออพชั่นมาตรฐาน

ขุมพลังใช้เครื่องยนต์เบนซิน VTEC Turbo ขนาด 1.5 ลิตร เดียวกับสเปกไทยแต่มีการปรับพละกำลังลดลงเพื่อตามมาตรฐานการควบคุมไอเสียของสิงคโปร์โดยให้กำลังเหลือ 129 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 180 นิวตันเมตรที่ 1,700-4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ตามสไตล์ 3 โหมด ได้แก่ ECON Mode - โหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปรับการทํางานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น Normal Mode - โหมดการขับขี่แบบปกติ สําหรับการขับขี่ใช้งานโดยทั่วไป และที่เหนือกว่ารุ่น EL,EL + สเปกไทยนั่นคือเพิ่ม Sport Mode – โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต ที่การทํางานของเครื่องยนต์ตอบสนอง การเร่งได้ดียิ่งขึ้นเพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ

 มาพร้อมระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda Sensing ที่ทํางานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมอบให้เป็นออพชั่นมาตรฐาน โดยมีฟังกชันการทํางานหลักๆ ดังนี้ ใหม่ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) ระบบที่ตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถคันหน้า โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดง ข้อมูลและสัญญาณเสียง เพื่อให้ผู้ขับขี่เคลื่อนที่ตามรถคันหน้า พร้อมฟังก์ชันอืนๆดังนี้ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่า (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) แต่ไม่มีระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

นอกจากนี้ยังครบครันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Holdระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) ถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Side Airbags) และม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags) ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist - VSA) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง ช่วยการยึดเกาะถนน มั่นใจกับทุกการขับขี่ ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist - HSA) All New Honda Sedan มีจำหน่ายแล้วเพียงรุ่นเดียวโดยมีราคาเริ่มที่ $ 122,999 หรือราว 3,004,000 บาท (ไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย)

ที่มา Honda Singapore