ชมรอบคัน!! 2022 Haval H9 Facelift เอวยูวีรุ่นใหญ่ปรับมาดหรูเท่โดนใจชาวมังกร
- โดย : Autodeft
- 2 ส.ค. 64 00:00
- 5,372 อ่าน
หลังจากได้ชมหน้าใหม่ที่ว่ากันว่าเป็นการปรับโฉมครั้งที่ 4 ในรอบ 7 ปี สำหรับเอสยูวีรุ่นใหญ่ค่าย ฮาวอล อย่าง Haval H9 จากแดนมังกรและการเผยโฉมครั้งนี้เพื่อสานต่อยอดขายสะสมสูงเกือบ 10,000 คัน เพิ่มขึ้น 33.3 % และผลิตส่งขายจีนและทั่วโลกกว่า 100,000 คัน
ล่าสุดเว็บรถยนต์ Autohome เผยหน้าตาอย่างเป็นทางการหล่อหรูกว่าครั้งไหนๆแถมเป็นการปรับโฉมรวดเร็วห่างจากการปรับโฉมครั้งที่ 3 เพียง 2 ปี เริ่มที่กระจังหน้าหน้าดีไซน์ใหม่โครเมี่ยมแนวตั้ง 11 ซี่ ที่หรูล้ำกว่าครั้งไหนๆ พร้อมโลโก้ Haval ประกบกับไฟหน้า LED matrix headlights พร้อมไฟ DRL แบบ LED ที่หยิบมาจากหน้าที่ 3 มาใช้ กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED แนวตั้ง รับกับชุดการ์ดเสริมสีเงินครอบทับไว้ ด้านข้างดีไซน์ใหม่ตรงคิ้วชายล่างใหม่ ส่วนล้ออัลลอยยังลายเดิมตั้งแต่ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 265/65R17 และขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 ด้านท้ายใหม่ด้วยไฟท้าย LED แนวยาว พร้อมฝาท้ายที่เปิดกว้างเสริมด้วยยางอะไหล่ห้อยท้ายที่สง่า ด้วยความเป็นพี่ใหญ่เอสยูวีของค่ายในพื้นฐานแชสซีส์ขั้นบันไดหรือ body-on-frame chassis มิติตัวรถยังคงเดิมตั้งแต่ความยาว 5,077 มม. ความกว้าง 1,926 มม. ความสูง 1,900 มม. และฐานล้อ 2,800 มม.
ภายในยังคงเดิมแต่มีการเปลี่ยนในส่วนแผงคอนโซลหน้าในส่วนคอนโซลกลางด้วยการขยายจอสัมผัสให้ใหญ่กว่าเดิมเป็นแนวยาว 12.3 นิ้ว พร้อมมาตรวัดดิจิตอล 7 นิ้วแบบ LCD พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 4 ก้าน ความสบายแบบ 7 ที่นั่ง หุ้มด้วยกึ่งหนังแท้และวัสดุผิวสัมผัสทั้งชิ้น และเบาะคู่หน้าปรับด้วยระบไฟฟ้า
ขุมพลังยังคงเดิมด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร GDIT รหัส GW4C20B 224 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 385 นิวตันเมตรที่ 1,800-3,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดจาก ZF และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Terrain four-wheel-drive ที่เลือกการขับชี่ได้โหมด Auto, Snow, Sand, Mud และ 4 Low พร้อมระบบความปลอดภัยทั้งคันตั้งแต่ ถุงลมนิรภัยรอบคัน ระบบ เบรก ABS, ระบบกระจายแรงดบรก (EBD), ระบบควบคุมการทรงตัว (ESC), ระบบเสริมแรงเบรก (EBA), ระบบเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Attention assist), ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ L2 Pilot Assist
Haval H9 ปรับโฉมครั้งที่ 4 จะขายจริงที่จีนเร็วๆนี้ และหน้าใหม่นี้อาจได้ใช้ทั้งจีนและบางประเทศส่วนเมืองไทยยังไม่มีแผนเข้าจำหน่าย
ที่มา Autohome
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com