2022 Haval H6S เอสยูวีทรงสปอร์ต เปิดตัวที่เมืองจีน 27 สิงหาคมนี้

ค่าย Haval พร้อมแล้วที่จะผงาดในวงการรถยนต์อเนกประสงค์ทั่วโลกด้วยการเปิดตัวสองรุ่นใหม่ที่งาน Chengdu Auto Show 2021 โดยนอกจากจะเปิดตัวรุ่นปรับโฉมของ Haval H9 แล้ว ยังมีอีกหนึ่งรุ่นทางเลือกใหม่จากตระกูล H6 นั่นคือ Haval H6S

Haval H6S เอสยูวีทรงสปอร์ตที่ยังคงรักษาความเป็นอเนกประสงค์ไว้เต็มร้อย ด้วยการนำพื้นฐานรุ่น H6 ดัดแปลงเป็นรถสปอร์ตหลังคาลาด แถมยกสูงลุยได้เต็มรูปแบบ หน้าตาเปลี่ยนบุคลิกเน้นดุไฟหน้า LED ทรงเรียวขึ้นยกสูงขึ้นหน้าตาดุดัน พร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่และขอบฝากระโปรงหน้าด้านข้างสูงกว่า Haval H6 ติดตั้งคิ้วขอบล้อสีดำและล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีดำ ท้ายรถเท่ขึ้นกับไฟท้าย LED แนวยาว ใต้ไฟท้ายติดตั้ง โลโก้ Haval ขนาดใหญ่ กันขนหลังทรงใหญ่ พร้อมลิ้นสปอยเลอร์หลัง ท่อไอเสียคู่ล้อมกรอบโครเมี่ยม ตัวรถมีมิติต่างจากรุ่น Haval H6 ปกติทั้ง ความยาว 4,714มม. ความกว้าง 1,940 มม. ความสูง 1,729 มม. และฐานล้อ 2,738 มม. สร้างจาก LEMON platform

ภายในยกมาจาก Haval H6 มาทั้งหมดแต่มีการปรับรายละเอียดเพื่อความเหมาะสมตั้งแต่ แผงมาตรวัด Digital แบบลอยตัว 10.25 นิ้ว พร้อมจอ Infotainment ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว และจอแสดงผลแบบ Head Up Display (HUD) หลังคาพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหญ่ เครื่องปรับอากาศ dual-zone climate control  พร้อมแอร์หลังและที่ชาร์สมาร์ทโฟนไร้สาย Wireless Charger

ขุมพลังมีความเป็นด้ว่าใช้ขุมพลังเดียวกับ Haval H6 HEV สเปกไทยด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบแปรผันซูเปอร์ชาร์จ VGT 1.5 ลิตร GW4B15 GDIT EVO 150 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 230 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 177 แรงม้าที่ 300 นิวตันเมตร โดยเมื่อทำงานร่วมกันจะได้แรงม้ารวมสูงสุด 243 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ DHT ขับเคลื่อนล้อหน้า โดยเกียร์ DHT มี 2 ระบบเกียร์ (1 ระบบเกียร์ที่ด้านเครื่องยนต์และอีก 1 ระบบเกียร์ที่ด้านมอเตอร์ขับเคลื่อน) เพื่อรองรับการขับเคลื่อนที่หลากหลายและกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และช่วยประหยัดน้ำมัน เร้าใจยิ่งขึ้นด้วยโหมดการขับขี่เลือกได้ถึง 4 โหมดทั้งโหมด มาตรฐาน, สปอร์ต, ประหยัด, สภาพถนนลื่น

Haval H6S เตรียมเปิดตัวที่เมืองจีน ที่งาน Chengdu Auto Show 2021 พร้อม Haval H9 Facelift และรุ่นอื่นในวันที่ ระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม – 5 กันยายนนี้ ส่วนเมืองไทยจะทำตลาดหรือไม่ต้องติดตาม

ที่มา Autohome

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com