ยอดขายรถใหม่เดือนตุลาคม 2565 พุ่งเบา ๆ 0.2% ขายเพิ่มได้อีก 64,618 คัน สะสมทั้งปียังโต 17.1%
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 29 พ.ย. 65 00:00
- 4,255 อ่าน
ยอดขายรถใหม่ของเดือนตุลาคม 2565 ยังคงเพิ่มขึ้นอยู่ ถึงแม้ว่าจะเติบโตไม่มากเท่าไหร่ อยู่แค่เพียง 0.2% เท่านั้น จากยอดขายทั้งหมด 64,618 คัน แต่เมื่อดูภาพรวมทั้งปีนี้แล้วยังเติบโตอยู่ จากยอดขายทั้งหมดรวม 698,305 คัน มากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน 17.1%
ตลาดรถยนต์เดือนตุลาคมมีปริมาณการขาย 64,618 คัน เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 2.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาด้วยตัวเลข 19,468 คัน เป็นผลมาจากการชลอการตัดสินใจซื้อของลูกค้าในช่วงปลายฤดูฝน ซึ่งลูกค้ายังมีความกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วมซึ่งเกิดขึ้นทั่วไป ขณะที่ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ไม่หวั่นไหว ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราการเจริญเติบโต 1.4% และตัวเลขการขาย 45,150 คัน สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่กำลังพลิกฟื้นดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีการขาดแคลนชิพในการผลิตยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ และส่งผลกระทบต่อการส่งมอบรถยนต์ใหม่ถึงมือลูกค้าได้ทันต่อความต้องการ สำหรับการประเมินในช่วงสุดท้ายของปี ตลาดรถยนต์เดินหน้าอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ช่วง Hi-Season ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี ด้วยตัวเลขการขายสะสม 10 เดือนที่มากถึง 698,305 คัน เติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 17.1% เดินหน้าเต็มตัวรับเทศกาลการขายประจำปี MOTOR EXPO ในช่วงต้นเดือนธันวาคม ซึ่งหลายค่ายรถยนต์ต่างประกาศแคมเปญ “เงื่อนไขเดียวกับ MOTOR EXPO” กระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเดือนนี้ เพื่อหวังปิดตัวเลขการขายสิ้นปีอย่างงดงาม โดยมีปัจจัยเสริมคือภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก ช่วยกระตุ้นตลาดรถเช่า และรถตู้ให้ดีดตัวกลับมา หลังจากที่ซบเซามาตลอดระยะเวลา 3 ปี ของการแพร่ระบาด โควิด-19
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนตุลาคม 2565
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 64,618 คัน เพิ่มขึ้น 0.2%
- อันดับที่ 1 Toyota 25,439 คัน เพิ่มขึ้น 11.4 %
- อันดับที่ 2 Isuzu 4,087 คัน ลดลง 8.6%
- อันดับที่ 3 Honda 5,909 คัน ลดลง 17.7%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 19,468 คัน ลดลง 2.4%
- อันดับที่ 1 Toyota 6,615 คัน เพิ่มขึ้น 17.1 %
- อันดับที่ 2 Honda 5,454 คัน ลดลง 18.0%
- อันดับที่ 3 Mitsubishi 1,489 คัน ลดลง 5.3%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 45,150 คัน เพิ่มขึ้น 1.4%
- อันดับที่ 1 Toyota 18,824 คัน เพิ่มขึ้น 9.5%
- อันดับที่ 2 Isuzu 14,087 คัน ลดลง 8.6%
- อันดับที่ 3 Ford 5,043 คัน เพิ่มขึ้น 78.6%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 35,447 คัน เพิ่มขึ้น 0.3%
- อันดับที่ 1 Toyota 5,020 คัน เพิ่มขึ้น 0.7%
- อันดับที่ 2 Isuzu 12,795 คัน ลดลง 8.6%
- อันดับที่ 3 Ford 5,043 คัน เพิ่มขึ้น 78.6%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 5,361 คัน Toyota 2,451 คัน - Ford 1,316 คัน Isuzu 1,044 คัน –Mitsubishi 459 คัน –– นิสสัน 91 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 30,086 คัน ลดลง 3.5%
- อันดับที่ 1 Toyota 12,569 คัน ลดลง 2.1%
- อันดับที่ 2 Isuzu 11,751 คัน ลดลง 10.4%
- อันดับที่ 3 Ford 3,727 คัน เพิ่มขึ้น 59.9%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – ตุลาคม 2565
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 698,305 คัน เพิ่มขึ้น 17.1%
- อันดับที่ 1 Toyota 234,058 คัน เพิ่มขึ้น 23.6 %
- อันดับที่ 2 Isuzu 177,714 คัน เพิ่มขึ้น 20.9%
- อันดับที่ 3 Honda 67,190 คัน ลดลง 1.9%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 220,108 คัน เพิ่มขึ้น 12.2%
- อันดับที่ 1 Toyota 65,392 คัน เพิ่มขึ้น 34.1%
- อันดับที่ 2 Honda 51,441 คัน ลดลง 14.4%
- อันดับที่ 3 Mitsubishi 17,844 คัน เพิ่มขึ้น 25.8%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 478,197 คัน เพิ่มขึ้น 19.5%
- อันดับที่ 1 Isuzu 177,714 คัน เพิ่มขึ้น 20.9%
- อันดับที่ 2 Toyota 168,666 คัน เพิ่มขึ้น 19.9%
- อันดับที่ 3 Ford 33,234 คัน เพิ่มขึ้น 31.1%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 375,267 คัน เพิ่มขึ้น 20.2%
- อันดับที่ 1 Isuzu 163,925 คัน เพิ่มขึ้น 23.0%
- อันดับที่ 2 Toyota 144,068 คัน เพิ่มขึ้น 20.2%
- อันดับที่ 3 Ford 33,234 คัน เพิ่มขึ้น 31.1%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 51,642 คัน Toyota 22,462 คัน - Isuzu 15,141 คัน - Ford 6,820 คัน – Mitsubishi 6,198 คัน – นิสสัน 1,021 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 323,625 คัน เพิ่มขึ้น 19.1%
- อันดับที่ 1 Isuzu 148,784 คัน เพิ่มขึ้น 23.4%
- อันดับที่ 2 Toyota 121,606 คัน เพิ่มขึ้น 19.4%
- อันดับที่ 3 Ford 26,414 คัน เพิ่มขึ้น 22.8%
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com