Motor Show 2022 ทำยอดขายรถใหม่เดือนเมษายนพุ่งเพิ่ม 9.1% รวม 63,427 คัน
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 23 พ.ค. 65 00:00
- 4,171 อ่าน
สัญญาณยอดขายรถยนต์ใหม่ 2022 ประจำเดือนเมษายน 2565 เริ่มดีขึ้น จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลาย รวมทั้งยังได้แรงเสริมกับการจัดงาน Motor Show 2022 ทำให้ยอดขายพุ่งเพิ่ม 9.1% รวม 63,427 คัน Toyota ยังคงครองแชมป์ยอดขายสูงสุด
ตลาดรถยนต์เดือนเมษายน 2565 มีปริมาณการขาย 63,427 คัน เพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 20.6% ส่วนตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเจริญเติบโตเช่นเดียวกันที่ 4.4% เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลาย ทำให้ผู้บริโภคกลับมาใช้ชีวิตในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้เกือบเป็นปกติ โดยมีปัจจัยบวกที่สำคัญในช่วงเดือนนี้ได้แก่ ยอดจองรถในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ที่มากถึง 31,896 คัน ไม่นับยอดจองรถที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายทุกยี่ห้อทั่วประเทศ ที่ต่างนำเสนอแคมเปญ “ข้อเสนอเดียวกับมอเตอร์โชว์” อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกค่ายรถยนต์ต่างเร่งทำการผลิตอย่างเต็มที่ เพื่อส่งมอบรถใหม่ถึงมือลูกค้าได้ทันตามความต้องการ
ตลาดรถยนต์ในเดือนพฤษภาคมมีแนวโน้มการเจริญเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนที่เป็น “Low season” แต่ยังได้รับแรงส่งจากตัวเลขการส่งมอบรถที่รับจองในช่วงมอเตอร์โชว์ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ส่วนปัจจัยบวกที่สำคัญอย่างยิ่งในช่วงนี้ ได้แก่ การที่ผู้บริโภคเริ่มคลายความกังวลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ที่กำลังจะได้รับการประกาศให้เป็น “โรคประจำถิ่น” สังเกตุได้จากสภาพการจราจรที่กลับมาคึกคักอีกครั้งจากการผ่อนคลายมาตรการ “Work From Home” เพื่อให้พนักงานกลับเข้าทำงานตามปกติ โรงเรียนเริ่มเปิดให้นักเรียนกลับเข้าห้องเรียน รวมทั้งการออกจากบ้านมาทำงานของประชาชนทุกสาขาอาชีพ ล้วนผลักดันเศรษฐกิจโดยรวมให้ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ และส่งผลต่อความต้องการใช้รถยนต์ของผู้บริโภคให้เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนเมษายน 2565
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 63,427 คัน เพิ่มขึ้น 9.1%
อันดับที่ 1 Toyota 21,681 คัน เพิ่มขึ้น 13.2%
อันดับที่ 2 Isuzu 16,595 คัน เพิ่มขึ้น 11.0%
อันดับที่ 3 Honda 5,107 คัน ลดลง 5.8%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 20,492 คัน เพิ่มขึ้น 20.6%
อันดับที่ 1 Toyota 6,901 คัน เพิ่มขึ้น 39.2%
อันดับที่ 2 Honda 3,969 คัน ลดลง 10.5%
อันดับที่ 3 Suzuki 2,045 คัน เพิ่มขึ้น 18.0%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 42,935 คัน เพิ่มขึ้น 4.4%
อันดับที่ 1 Isuzu 16,595 คัน เพิ่มขึ้น 11.0%
อันดับที่ 2 Toyota 14,780 คัน เพิ่มขึ้น 4.1%
อันดับที่ 3 Ford 2,529 คัน ลดลง 8.9%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 33,629 คัน เพิ่มขึ้น 3.1%
อันดับที่ 1 Isuzu 15,451 คัน เพิ่มขึ้น 13.2%
อันดับที่ 2 Toyota 12,605 คัน เพิ่มขึ้น 1.4%
อันดับที่ 3 Ford 2,529 คัน ลดลง 8.9%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,559 คัน โตโยต้า 2,199 คัน - อีซูซุ 1,302 คัน – มิตซูบิชิ 641 คัน – ฟอร์ด 318 คัน – นิสสัน 99 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 29,070 คัน เพิ่มขึ้น 5.9%
อันดับที่ 1 Isuzu 14,149 คัน เพิ่มขึ้น 20.7%
อันดับที่ 2 Toyota 10,406 คัน ลดลง 0.1%
อันดับที่ 3 Ford 2,211 คัน ลดลง 2.6%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – เมษายน 2565
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 294,616 คัน เพิ่มขึ้น 16.8%
อันดับที่ 1 Toyota 98,825 คัน เพิ่มขึ้น 31.6%
อันดับที่ 2 Isuzu 74,015 คัน เพิ่มขึ้น 15.3%
อันดับที่ 3 Honda 30,731 คัน เพิ่มขึ้น 1.2%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 96,218 คัน เพิ่มขึ้น 17%
อันดับที่ 1 Toyota 27,237 คัน เพิ่มขึ้น 39.9%
อันดับที่ 2 Honda 23,865 คัน ลดลง 7.4%
อันดับที่ 3 Mazda 8,377 คัน เพิ่มขึ้น 11.0%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 198,398 คัน เพิ่มขึ้น 16.7%
อันดับที่ 1 Isuzu 74,015 คัน เพิ่มขึ้น 15.3%
อันดับที่ 2 Toyota 71,588 คัน เพิ่มขึ้น 28.7%
อันดับที่ 3 Mitsubishi 10,908 คัน เพิ่มขึ้น 9.7%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 156,401 คัน เพิ่มขึ้น 18.5%
อันดับที่ 1 Isuzu 68,607 คัน เพิ่มขึ้น 16.2%
อันดับที่ 2 Toyota 62,694 คัน เพิ่มขึ้น 33.0%
อันดับที่ 3 Mitsubishi 10,843 คัน เพิ่มขึ้น 12.3%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 20,815 คัน โตโยต้า 9,964 คัน - อีซูซุ 6,234 คัน - มิตซูบิชิ 2,781 คัน – ฟอร์ด 1,415 คัน – นิสสัน 421 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 135,586 คัน เพิ่มขึ้น 21.2%
อันดับที่ 1 Isuzu 62,373 คัน เพิ่มขึ้น 20.1%
อันดับที่ 2 Toyota 52,730 คัน เพิ่มขึ้น 36.5%
อันดับที่ 3 Ford 8,464 คัน ลดลง 7.2%
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com