2022 Bentley Flying Spur Mulliner อีกระดับความหรูหราของอัครยนตรกรรมสปอร์ตซีดานแต่งหรูจากโรงงาน

  • โดย : Autodeft
  • 20 ส.ค. 64 00:00
  • 7,267 อ่าน

หลังจากที่เปิดตัว Bentley Flying Spur สุดยอดเก๋งหรูจากอังกฤษไปได้ไม่นาน ล่าสุดค่ายรถยนต์หรูพรีเมี่ยมอย่าง เบนท์ลีย์ และ เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ เผยโฉมอัพเกรดความหล่อจากโรงงานให้พิเศษกว่ารุ่นเดิมกับ Bentley Flying Spur Mulliner

Bentley Flying Spur Mulliner

Bentley Flying Spur Mulliner

Bentley Flying Spur Mulliner

Bentley Flying Spur Mulliner เผยโฉมที่งาน Monterey Car Week รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา อัครยนตรกรรมปอร์ตซีดานที่ตกแต่งอย่างหรูหราสุด ที่สุดของอัครยนตรกรรมสปอร์ตซีดานในตระกูลฟลายอิ้ง สเปอร์ ซึ่งถือเป็นการผสมผสานระหว่างงานฝีมืออันทันสมัยและความหรูหราที่น่าทึ่ง โดยรุ่นนี้ถูกรังสรรค์และพัฒนาขึ้นโดยให้ เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ แผนกงานออกแบบพิเศษของเบนท์ลีย์และผู้ออกแบบตัวถังรถยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ออกแบบ การวางระบบ และการประกอบด้วยช่างฝีมือในประเทศอังกฤษ ซึ่งจะดึงดูดลูกค้าที่หลงใหลในรายละเอียดและความหรูหราอันเป็นเอกลักษณ์ที่โด่ดเด่นของ Bentley Mulliner

ภายนอกบรรจงตกแต่งอย่างสวยงามรวมถึงล้ออัลลอยด์แบบ Mulliner ขนาด 22 นิ้วอันเป็นเอกลักษณ์ในเฉดสีเทาเคลือบเงา พร้อมฝาครอบล้อที่สามารถปรับได้เองและตั้งตรงในขณะที่ล้อหมุน กระจังหน้าแบบเพชร 2 ชั้น (Double Diamond) และกระจังหน้าด้านล่างแบบโครเมียมที่เข้ากันได้อย่างลงตัวกับช่องระบายอากาศด้านข้างที่ตกแต่งด้วยตัวอักษร ‘Mulliner’ และฝาครอบกระจกข้างเฉดสีเงินซาติน โดยเบนท์ลีย์ ฟลายอิ้ง บี สัญลักษณ์ของเบนท์ลีย์ ยังคงถูกติดตั้งและเรืองแสงด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมฝาครอบปิดถังน้ำมันรูปตัว ‘B’

Bentley Flying Spur Mulliner

อักษร ‘Mulliner’ เรืองแสงบริเวณกาบประตูเพื่อต้อนรับผู้โดยสารสู่ภายในห้องโดยสารของอัครยนตรกรรมนำเสนอการผสมผสานของสามเฉดสีแบบสั่งทำพิเศษถึงแปดแบบของมูลินเนอร์ ห้องโดยสารที่ตกแต่งอย่างหรูหราเสริมด้วยการเดินสีที่เน้นความเข้มของลายเส้นและการปักอักษร ‘Mulliner’ อันเป็นเอกลักษณ์บนเบาะโดยสารที่เย็บด้วยมือ ด้วย เฉดสีน้ำเงิน Ascot คือการผสมผสานระหว่างหนังเฉดสีน้ำเงิน Imperial Blue เข้ากับแผงหน้าปัด ขอบประตู และแผงบุหลังคา ขณะที่หนังสีน้ำตาลอ่อนที่เรียกว่า Camel เน้นย้ำถึงสไตล์ของเบาะโดยสาร ลายเส้นขนาดเล็กสีขาว การปัก และการเน้นของลายเส้น ผสมผสานสีที่สามเข้ากับการตกแต่งภายในของมูลินเนอร์อันเป็นเอกลักษณ์

Bentley Flying Spur Mulliner

Bentley Flying Spur Mulliner

การผสมผสานของเฉดสีดำ Flare และ เฉดสีน้ำเงิน Sirius ช่วยเพิ่มการผสมผสานที่โดดเด่นยิ่งขึ้นของเฉดสีแดง Hotspur และเฉดสีดำ Beluga เช่นเดียวกับเฉดสีครีม Linen และเฉดน้ำเงิน Brunel ตัดกับลายเส้นขอบเบาะ มากไปกว่านั้น Mulliner Driving Specification ได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยนำการเย็บลวดลายแบบเพชร 2 ชั้น (Diamond-in-Diamond) มาใช้กับเบาะโดยสาร และการใช้หนังแบบสามมิติที่บริเวณประตู ลายเส้นของเบาะโดยสารแบบตัดกันเข้ากันได้ดีกับการเน้นลายเส้นที่ล้อมรอบห้องโดยสารจากคอนโซลกลาง รอบแผงหน้าปัด และบริเวณประตูห้องโดยสาร ทำให้โครเมียมของสัญลักษณ์เบนท์ลีย์ บี โดดเด่นขึ้น

ภายในเย็บอย่างประณีตด้วยเพชร 2 ชั้น (Diamond-in-Diamond) อันหรูหราเป็นกระบวนการปักที่ใช้เวลากว่า 18 เดือนในการพัฒนา เพชรแต่ละเม็ดมีตะเข็บกว่า 712 ฝีเข็ม โดยแต่ละเม็ดเรียงชิดกันกับศูนย์กลางของเพชรที่ถูกรังสรรค์ขึ้น งานฝีมือสมัยใหม่และความหรูหราที่สะกดทุกสายตาผสมผสานกับเทคนิคพิเศษที่ลวดลายเสมือนเพชรซึ่งใช้กับคอนโซลกลางและคอนโซลหลัง ส่วนบริเวณตรงกลางแดชบอร์ดข้างช่องระบายอากาศโครเมียมคือนาฬิกาแบบมูลินเนอร์สีเงินขัดเงาที่สวยงามตระการตา

Bentley Flying Spur Mulliner

Bentley Flying Spur Mulliner

รูปแบบอันคลาสสิกของเบนท์ลีย์ยังคงเป็นแผงหน้าปัดแบบ LED พร้อมกราฟิกมูลินเนอร์แบบใหม่ที่มีสไตล์พิเศษเฉพาะ ผนวกเข้ากับหน้าจอแบบหมุนได้อย่าง Bentley Rotating Display อันเป็นเอกลักษณ์ คันเร่งแบบสปอร์ต พวงมาลัยปรับอุณหภูมิดูโอโทนแบบ 3 ก้าน และซันรูฟแบบพาโนรามาช่วยเพิ่มบรรยากาศที่หรูหราโต๊ะพับแบบมูลินเนอร์ที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ ติดตั้งไว้ที่ด้านหลังของเบาะโดยสารด้านหน้า โดยสามารถกางออกได้ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว โต๊ะไม้วีเนียร์มีการตกแต่งทับเป็นเอกลักษณ์ และสามารถปรับระดับในตัวเองเพื่อเผยให้เห็นพื้นผิวที่ตกแต่งด้วยหนังแท้พร้อมช่องสำหรับวางปากกา โดยการกดปุ่มค้างไว้จะทำให้โต๊ะกลับสู่ตำแหน่งเดิมอย่างสวยงาม

Bentley Flying Spur Mulliner มาพร้อมกับเครื่องยนต์รุ่น V8 และ W12 ของเบนท์ลีย์ รวมถึงรุ่น V6 Hybrid ใหม่ เครื่องยนต์รุ่น W12 ขนาด 6.0 ลิตร เทอร์โบคู่ของเบนท์ลีย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ มอบอัตราเร่งด้วยความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุดถึง 333 กม./ชม. เครื่องยนต์รุ่น V8 เทอร์โบคู่รุ่นใหม่ขนาด 4.0 ลิตร ให้ความเร็วสูงสุดที่ 318 กม./ชม. และ 0-100 กม./ชม. ใน 4.1 วินาที และเครื่องยนต์รุ่น V6 Hybrid ใหม่เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ใน 4.3 วินาที ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 285 กม./ชม.

Bentley

Bentley Flying Spur Mulliner สามารถสั่งจองได้แล้วสำหรับต่างประเทศส่วนเมืองไทยยังคงจำหน่ายรุ่นเดิมคือ Bentley Flying Spur W12 เริ่มต้น 18.7 ล้านบาท

ที่มา Carscoops

 

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ