เคาะราคาแล้ว!! 2021 Mercedes-Benz CLS 220 d ทางเลือกใหม่เก๋งสปอร์ตสุดหรู เริ่ม 4.329 ล้านบาท

หลังจากที่ เมอรเซเดส-เบนซ์ เตรียมเผยแบบเงียบๆกับ Mercedes-Benz CLS 220 d ทำให้สาวกรถหรูสนใจในรุ่นรถรุ่นนี้มากขึ้นและถามไถ่กันมาว่ารุ่นใหม่นี้ราคาจำหน่ายเท่าไหร่และออพชั่นจะมีการเพิ่มหรือไม่

ล่าสุดทืมงาน Autodeft ได้รับข้อมูลจากเว็บไซต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ว่ามีการปรับปรุงข้อมูลใหม่จากรุ่น Mercedes-Benz CLS 300 d AMG Premium กลายเป็น Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium และจากวงในที่เชื่อถือได้ 

สำหรับภายนอกไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าแบบ diamond-pattern grille มีเส้นตัดแบ่งเส้นเดียวอันเป็นเอกลักษณ์ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมเส้นสายที่ดูกว้างและมีลักษณะทอดตัวลงไปที่พื้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับหลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด – ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า กันชนหน้า – หลัง และสเกิร์ตดีไซน์สปอร์ตจาก AMG สัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์เบรก, ล้ออัลลอยสปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 245/40 R19 สำหรับล้อหน้าและ 275/35 R19 สำหรับล้อหลัง อีกทั้งยังมีชุดไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED และไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติก แต่ตัดในส่วนของจานเบรกขนาดใหญ่แบบเจาะรู larger brake discs

ภายในยังคงเดิมเบาะนั่งหนังแท้คุณภาพแบบ nappa และฝีเข็มสำหรับทั้งเบาะที่นั่งคู่หน้าและเบาะที่นั่งตอนหลังที่อยู่ในตำแหน่งตรงกับเบาะที่นั่งตอนหน้าถูกจัดวางให้เหมือนกัน นอกจากนี้ เบาะที่นั่งตอนหลังยังสามารถพับลงแบบ 40/20/40 และเบาะที่นั่งคู่หน้าสามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ และเพิ่มระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย Wireless Charging พร้อม พวงมาลัยพาวเวอร์แบบมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต 3 ก้านท้ายตัดที่ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถด้วยระบบไฟฟ้าหุ้มหนัง nappa ลำโพงคุณภาพ รอบทิศทาง Burmester® Surround Sound System ,กาบบันไดเรืองแสงพร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz, ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต อีกทั้งยังสามารถเลือกสีของไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารได้ถึง 64 สี (Premium ambient lighting) แต่ในรุ่นใหม่นี้มีการตัดออพชั่นบางรายการออกไปเพื่อทำราคาให้ถูกลงไม่ว่าจะเป็น ตัดตาข่ายเก็บเอกสารบริเวณผู้โดยสารด้านหน้า ตัดปุ่มควบคุมการปรับเบาะผู้โดยสารด้านหน้าบริเวณประตูฝั่งผู้ขับ ไม่มีนาฬิกาแบบ Analog ตัดระบบหน้าจอแบบ Audio 20 แต่เพิ่มและปรับออพชั่นใหม่ตั้งแต่ระบบ MBUX เพิ่ม Touchscreen Functions Touchpad ดีไซน์ใหม่ในชุด widescreen cockpit ขนาด 12.3 นิ้วต่อกัน 2 จอ เพิ่มระบบแจ้งสถานะเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านหลัง Rear Seat Belts status และเปลี่ยนดีไซน์ Touchpad ใหม่ให้แบนและเรียวใช้งานง่ายขึ้น  

ขุมพลังยังคงเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน OM654 ขนาด 2.0 ลิตร เช่นเดิมแต่งานนี้ลดกำลังเหลือเพียง 194 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที (เดิม 245 แรงม้าที่ 4,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที) จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-TRONIC และระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering - wheel Gearshift Paddles) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้สมรรถนะการขับขี่นุ่มนวลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยี โดดเด่นด้วยระบบ DYNAMIC SELECT ที่มีโหมดการขับขี่อันหลากหลาย ซึ่งทำให้ผู้เป็นเจ้าของสามารถสัมผัสถึงการขับขี่แบบเร้าใจหรือการขับขี่แบบนุ่มสบายตลอดการเดินทางได้ในคันเดียว, ระบบกุญแจ KEYLESS-GO พร้อม HAND-FREE ACCESS, ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display), ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2-Zone, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist), ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS (Active Light System), ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) และเพิ่มระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist) แต่ตัดระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC) ตัดระบบ โหมด Sport+ ออก แต่เพิ่มระบบช่วยลดความเสี่ยงของการชนปะทะกับรถยนต์ที่วิ่งอยู่ด้านหน้า Active Braking Assist

เมื่อหัวใจหลักอย่างขุมพลังและออพชั่นมีการปรับเพื่อความเหมาะสมราคาจำหน่ายก็ปรับลดลงเช่นกันโดยจำหน่ายเพียง 4,329,000 บาท (เดิม 4,449,000 บาท)

ที่มา Mercedes-Benz