สวยแต่ไม่เข้าไทย!! 2021 Lexus LX 570 S เอสยูวีหรูตัวท็อป..เผยตัวจริงที่แดนจิงโจ้ เริ่ม 3.989 ล้านบาท

นับเป็นรถยนต์เอสยูวีระดับเรือธงของค่าย เล็กซัส สำหรับ Lexus LX 570 ที่กล้าส็กับคู่แข่งจากฟากยุโรปและอเมริกาอย่างเต็มภาคภูมิไม่ว่าจะเรื่องความหรูลักชัวรี่ความอเนกประสงค์และลุยได้ในคันเดียว

ล่าสุด เล็กซัส ออสเตรเลีย แนะนำรุ่นหรูตัวท็อป Lexus LX 570 S มาพร้อม 2 สีทั้ง สีดำ Starlight Black และสีบรอนซ์เงิน Sonic Quartz โดยอัพเกรดออพชั่นทั้งภายนอกภายในจากรุ่น LX 570 ไม่ว่าจะเป็น จากกระจังหน้าแนวนนอนขนาดใหญ่แบบ Spindle Grill ดีไซน์ใหม่ เอกลักษณ์ของ Lexus สอดรับกับกันชนหน้าพร้อมปสอยเลอร์ในตัวกับไฟตัดหมอก LED ไฟหน้า LED กับไฟส่องสว่างเวลากลางวันหรือ LED Day Time รูปตัว L ที่อยู่ในโคมเดียวกัน พร้อมล้ออัลลอยด์ลายใหม่ขนาด 21 นิ้วพร้อมยาง 275/50R21 Dunlop Tyres ด้านหลังคงเดิมทั้งไฟท้าย LED แถบโครเมี่ยมที่กรอบป้ายทะเบียนหลังและกันชนหลังออกแบบให้ทันสมัยขึ้น พร้อมสัญลักษณ์รุ่น S และชุดแต่ง Sports Bodykit ทั้งกระจังหน้าและชุดสเกิร์ตกันชนหน้าและหลัง

ภายในหรูพิเศษด้วยการตกแต่งพรีเมี่ยมทั้งชุดหนังพรีเมี่ยมแบบเจาะรูทั้งสีดำหรือสี Garnet ให้เลือก ทั้ง 7 ที่นั่ง แป้นเหยียบอัลลอย พร้อมการตกแต่งภายในแบบสีเทา Shimamoku Grey จอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง Satellite Navigation และลำโพง 19 ตัวกำลังขับ 450W Mark Levinson จอหลังเบาะนั่งตอนหน้า 11.6 นิ้ว 2 จอ พร้อมมาตรวัดเรืองแสงและจอ MID สี 4.2 นิ้ว และจอแสดงข้อมูลบนแผงคอนโซลหน้า Colour Head Up Display

ขุมพลังแรงด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V8 5.7 ลิตร Dual VVT-i  รหัส 3UR-FE  367 แรงม้า แรงบิด 530 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Sequential & Paddle Shift พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง COMFORT, ECO, NORMAL, CUSTOMISE, SPORT S and SPORT S+ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-Time with lockable centre TORSEN LSD ติดตั้งระบบความปลอดภัย Lexus Safety System+ ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมเรดาร์ เตือนออกนอกเลน เตือนจุดอับสายตา ไฟสูงปรับอัตโนมัติ และป้องกันการชนด้านหน้าอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอเนกประสงค์สุดหรูที่พกพาพละกำลังอันเหลือเฟือ บวกกับความประหยัดที่แลกกับการต้องแบกน้ำหนักตัวที่ไม่น้อยเลยทีเดียว

สำหรับค่าตัวเอสยูวีสุดหรูสุดเท่อย่าง Lexus LX 570 S เริ่ม AU$168,767 (โดยราคาทั้งหมดนี้ รวมค่า On-Road Cost เรียบร้อยแล้ว) หรือราว 3,989,000 บาท (ไม่รวมภาษีนำเข้าของเมืองไทย)

ที่มา Carscoops