Mercedes-Benz X-Class ปิกอัพหรูเยอรมัน..เสริมทางเลือกด้วยดีเซลใหญ่ V6

หลังเปิดตัวเมื่อปีกลายสำหรับกระบะรุ่นแรกของค่ายดาวสามแฉก Mercedes-Benz X-Class จนเป็นที่สนใจสำหรับสิงห์รถกระบะที่ต้องการความหรูหราบวกกับความแกร่ง และดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร และกำลังสร้างยอดขายอย่างเป็นกอบเป็นกำ

Mercedes-Benz X-Class ช่วงแรกจะจำหน่ายทั้งรุ่น X220 d, X250 d และ X200 โดยมาพร้อมทางเลือกด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ จาก Nissan ทั้ง เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบรหัส YS23DDT ขนาด 2.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้าที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที ในรุ่น X220dและแรงสุดด้วยพลังเทอร์โบคู่ รหัสYS23DDTT 190 แรงม้าที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที ในรุ่น X250d และเครื่องยนต์เบนซินรุ่น QR25DE ขนาด 2.5 ลิตร 160 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 238 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ในรุ่น X200 ทั้งสามขนาดจับคู่กับระบบส่งกำลังทั้ง เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด

ล่าสุด เมอร์เซเดส-เบนซ์ ส่งทางเลือกใหม่ที่แรงกว่าสะใจกว่าด้วยรุ่น X350 d 4Matic มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน V6 3.0 ลิตร รหัส OM642 จาก Mercedes-Benz ให้กำลังสูงสุด258 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิด 550 นิวตันเมตร ที่ 1,400-2,400 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7G-Tronic เด่นด้วยการลากจูงมากสุด 3.5 ตัน และน้ำหนักมากสุด 1.1 ตัน ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 205 กม./ชม. และอัตราเร่งทันใจ 0-100 กม./ชม. ทำได้ 7.9 วินาที และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4Matic all-wheel drive ติดตั้งระบบล็อคเฟืองท้ายเป็นออพชั่นมาตรฐานนอกจากนี้ยังมอบความสนุกสนานในการขับขี่ด้วยโหมด Dynamic Select เอกลักษณ์เฉพาะที่มีถึง 5 โหมด้วยกันตั้งแต่ Comfort, Eco, Sport, Manual และ Offroad

สำหรับภายนอกของรุ่น X350 d 4Matic ไม่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ตั้งแต่ ตั้งแต่ ไฟหน้า LED โคมใหญ่ เข้ารูปลงตัว พร้มอกระจังหน้าขนาดใหญ่ แนวนอน 2 ชั้น ติดตราโลโก้ดาวสามแฉกอันโดดเด่น กันชนหน้าตกแต่งให้โหดแฝงความหรูในตัวอย่างเฉียบขาด ล้อและยางมีทั้งกระทะล้อและล้ออัลลอยลายเท่เลือกได้ตั้งแต่ขนาด 17-19 นิ้ว พร้อมราวหลังคาและบันไดข้าง ด้านท้ายเรียบง่าย พร้อมไฟท้าย LED ช่วยในการมองเห็นมากขึ้น เอาใจคนสู้งานด้วยปลั๊กชาร์จไฟแบบ 12 V ติดตั้งในกระบะท้าย

ภายในเรียบง่ายและแฝงความสปอร์ต ตั้งแต่คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยหนังและลายไม้ ติดตั้งช่องแอร์ทรงกลมดีไซน์เก๋ พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน กับมาตรวัดที่ใช้งานง่าย พร้อมจอ MID สีขนาด 5.4 นิ้ว บันเทิงรอบคันด้วยระบบ Infotainment ขนาด 8.4 นิ้ว พร้อมวัสดุหุ้มเบาะเลือกได้ทั้งผ้ากำมะหยี่และหนังแท้เกรดพรีเมี่ยม และ Around View Monitor กล้องมองภาพรอบคันขณะถอยจอด โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 53,360 euros หรือราว 2,063,000 บาท (ไม่รวมภาษีของเมืองไทย) ขายจริงปลายปีนี้ที่เยอรมนี พร้อมกับ แอฟริกาใต้ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ส่วนตลาดอเมริกาใต้ขายจริงปีหน้า

 

ที่มา Paultan

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com