Honda คุยโว!! Honda Civic Diesel เก๋งจอมประหยัดมากสุด 29 กม./ลิตร ที่ยุโรป

หลังจากแนะนำตลาดไปสักพักสำหรับ Honda Civic เก๋งคอมแพ็คที่ดังเกรียงไกรไปถึงทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นไทย ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น และยุโรป

ล่าสุด ฮอนด้า ยุโรป เอาใจสาวกจอมประหยัด เพิ่มรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ I-DTEC ลงใน Honda Civic เก๋งยอดนิยมอย่างเป็นทางการภายนอกแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้นตั้งแต่ ไฟหน้า LED ไฟท้ายทรงรูปตัว C แบบ LED ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED Daytime ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/50R17 หลังคารถออกแบบ ลาดลงมาจนถึงด้านท้าย คล้ายๆทรงรถ Hatchback และไฟมุมบังโคลน ซ้าย-ขวา ที่เป็นสีขาว มิติตัวรถที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมตั้งแต่ ความยาว 4,630 มม. ความกว้าง 1,799 มม. ความสูง 1,416 มม.ฐานล้อ 2,700 มม. และความจุสัมภาระท้าย 519 ลิตร

ภายในเหมือนทุกประการตั้งแต่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ เพื่อความบันเทิงและการสื่อสาร ขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay ระบบเบรกมือไฟฟ้าให้การใช้งานสบายขึ้น ปุ่ม Push Start พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Engine Remote Start) ที่สามารถสั่งการได้จากระยะไกล เพื่อช่วยอุ่นเครื่อง พร้อมปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารให้เย็นสบายล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง และเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา

ขุมพลังจากเดิมจะมีแต่เครื่องยนต์เบนซิน VTEC Turbo 1.5 ลิตร 182 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 240 นิวตันเมตรที่ 1,900-5,000 รอบ/นาที สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และ 182 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที 220 นิวตันเมตรที่ 1,700-5,500 รอบ/นาที สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมปล่อยค่า Co2 133 กรัม/กิโลเมตร และเครื่องยนต์เบนซิน VTEC Turbo เล็กสุด 1.0 ลิตร สูงสุด 129 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 200 นิวตันเมตรที่ 2,250 รอบ/นาที สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และ 180 นิวตันเมตรที่ 1,700-4,500 รอบ/นาที สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ CVT ปล่อยค่า Co2 106 กรัม/กิโลเมตร 

Honda เอาใจคนชอบประหยัดส่งเครื่องเยนต์ดีเซลเทอร์โบ I-DTEC 1.6 ลิตร มาเป็นทางเลือกใหม่โดยให้ความแรง 120 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 300 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 10.5 วินาที โดดเด่นด้วยลูกสูบผลิตมาจากเหล็กกล้า Chromium-molybdenum ด้วยวิธีพิเศษ ทำให้การเคลื่อนไหวในกระบอกสูบนุ่มนวลขึ้น, เครื่องยนต์มีเสียงที่เบาลง แต่มีความแข็งแรงมากขึ้น ทนทานต่อการใช้งานได้มากกว่าเดิม

ด้านระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเสริมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด เป็นทางเลือกแห่งความสบายและด้วยความแรง 120 แรงม้า สามารถให้ความประหยัดมากสุด 29.41 กม./ลิตร เบื้องต้นเริ่มจำหน่ายที่อังกฤษเป็นที่แรกและประเทศอื่นๆในทวีปยุโรป

 

 

ที่มา Indianautosblog

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com