ยอดขายรถยนต์ในนอร์เวย์ 1 ใน 3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน

ถ้าจะให้พูดถึงว่า ประเทศไหนที่ให้ความสำคัญในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุด คงต้องชี้ไปที่เมืองชาวไวกิ้งอย่างนอร์เวย์ เพราะจากข้อมูลล่าสุดได้บอกว่า ยอดขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นปี 2018 1 ใน 3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนแบบ Electric Vehicle (EV) ไปแล้ว

ข้อมูลนี้ออกมาจาก Information Council for Road Traffic (OFV) หน่วยงานที่ดูแลเรื่องการจราจรในประเทศนอร์เวย์ ได้เปิดเผยข้อมูลของการจำหน่ายรถยนต์ในปี 2018 ได้ข้อมูลออกมาว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ 2018 รวมทั้งหมด 147,929 คัน ลดลงจากเมื่อปีก่อน 6.8% ถึงแม้ยอดขายรวมจะลดลง แต่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบบไร้มลพิษ หรือที่เรียกว่า  zero emissions vehicles (ZEV) กลับมียอดขายที่เพิ่มขึ้น มียอดรวม 46,143 คัน รวม 31.2% จากยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 13,063 คันจากปี 2017 ถือว่าเพิ่มมากขึ้นเยอะมาก เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2013 ที่มีเพียง 5.5% เท่านั้น โดยในยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบบไร้มลพิษนั้น มีเป็นรถยนต์แบบไฮโดรเจน Fuel Cell ถึง 51 คัน และเป็นรถแวนไฟฟ้า 1,603 คัน จากเดิมเมื่อปี 2017 ที่ขายได้เพียง 862 คัน

จากข้อมูลได้บอกเพิ่มเติมว่า รถยนต์เครื่องดีเซล สามารถทำยอดขายได้เพียง 17.7% เท่านั้น ลดลงจากปีก่อนที่มี 23.1% ส่วนเครื่องยนต์แบบเบนซิน สามารถขายได้ 22% ลดลงจากปีก่อนที่มี 24.7% ที่เหลือ 29% เป็นรถยนต์ในระบบ Hybrid

ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า ที่มียอดขายมากที่สุดในนอร์เวย์ ตกเป็นของ Nissan Leaf ที่สามารถจำหน่ายได้ 12,303 คัน เพิ่มขั้น 264.6% จากปีก่อน ต่อมาเป็น BMW i3 จำนวน 5687 คัน, Tesla Model X จำนวน 4,981 คัน  และ Tesla Model S จำนวน 3,633 คัน

ความสำเร็จของการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตมากขึ้นในนอร์เวย์ เป็นผลมาจากการส่งเสริมอย่างจริงจังและจริงใจของทางรัฐบาล ทั้งการงดเว้นภาษี จนทำให้รถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Nissan Leaf มีราคาเริ่มต้นที่ 281,900 โครน หรือประมาณ 1,048,000 ล้านบาท สูงกว่า  Qashqai ที่ราคาเริ่มต้น 280,900 โครน หรือประมาณ 1,045,000 บาทนิดเดียว หรือ และให้สิทธิพิเศษอื่น ๆ อาทิ ที่จอดรถพิเศษ และจุดชาร์จไฟฟ้าฟรี เป็นต้น โดยทางรัฐบาลนอร์เวย์นั้น ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า ยอดจำหน่ายทุกคันจะต้องเป็นรถยนต์ระบบไฟฟ้าภายในปี 2025

ข้อมูลจาก Caradvice