Deft Opinion: รถแห่งชาติ...วาระที่ได้เวลากลับมามอง

เราเชื่อว่าหลายคนอาจจะอยากเห็น รถยนต์แห่งชาติ เป็นจริงบ้างในไทย เราฝันเฟื่องว่ามันเป็นไปไม่ได้หรือแค่ภาครัฐไม่ได้ใส่ใจ

 

 

เรื่อง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง

ช่วงนี้นั่งมองอุตสาหกรรมยานยนต์ ต้องยอมรับว่า เมืองไทยเรานั้น เนื้อหอมมาก เมื่อค่ายรถยนต์หลายเจ้า ต่างเร่งรุดหน้าสร้างโรงงานและวางแผนใช้ไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการส่งออกรถยนต์ของพวกเขาไปยังตลาดอื่นๆ ทั้งในตลาดอาเซียนเอง หรือจะส่งออกไปภูมิภาคอื่น จนเรียกว่าไทย เป็นประเทศที่พรั่งพร้อมทางด้านอุตสาหกรรมยานยนต์พอสมควร 

ในแง่มุมหนึ่ง เราคงลืมไปว่า รถยนต์ที่เราต่างภาคภูมใจว่า เราเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่าผลิตรถยนต์ให้ตลาดโลกอาจจะกลายเป็นเพียงเราก็ไม่ต่างอะไรจากกรรมกรที่คอยทำงานให้ ฝรั่งมังค่า หรือ จะเป็นบรรดานายจ้างญี่ปุ่น ที่ต่างเข้ามาหาผลประโยชน์จากประเทศไทย และแง่มุมที่บ้านเราไม่เคยนึกถึงมาก่อน ก็เลยกลายเป็นเรื่องตลกฝันไกล ที่ไม่มีใครค่อยจะคิดถึง

[IMAGE1]

รถยนต์แห่งชาติ อาจจะเป็นสิ่งที่หลายคนคิดอยู่ในใจไม่มากก็น้อย เมื่อเราเห็นว่ารถยนต์ใหม่ๆที่เราใช้งานกันทุกวันนี้ เราต้องพึงพาความรู้ หรืออาศัยความคิดและการวิศวกรรมจากชาวต่างชาติ ทั้งที่จริงแล้ว ชิ้นส่วนมากมายในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ นั้นต่างผลิตในประเทศ มิหนำซ้ำคุณภาพยังไม่ได้ด้อยเหมือนกับของจากเซินเจิ้น ด้วยค่ายรถยนต์หลายเจ้าต่างยอมรับว่าอะไหล่รถยนต์ไทยมีคุณภาพในระดับที่ยอมรับได้

ที่จริงประเด็นเรื่องรถแห่งชาติ นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เนื่องจากก็มีการพูดกันมายาวนานว่า คนไทยเราควรจะทำรถยนต์แบรนด์ของตัวเองหรือไม่ ในเมื่อ ชาติไทยเองก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก แถมทุกวันนี้ วงการอุตสาหกรรมยานยนต์ เราก็ไม่ได้แค่ประกอบขึ้นรูปรถจากอะไหล่กลายเป็นรถยนต์หนึ่งคันเพียงอย่างเดียว แต่เรายังได้รับความวางใจจากหลายแบรนด์ให้ประกอบเครื่องยนต์ภายในประเทศ รวมถึงชุดเกียร์ ซึ่งกำลังจะเริ่มเร็วๆนี้ในแบรนด์ของ Mazda  

แต่วาระ “รถแห่งขาติ” ก็ไม่เคยกล่าวถึงออกมา เนื่องด้วยความเกรงว่า ถ้าคนไทยทำรถของตัวเอง สู้บรรดาค่ายรถยนต์ชั้นนำที่ผลิตรถยนต์อยู่ภายในบ้านเรา อาจจะโดนครหาว่า เป็นการทับซ้อนกันเอง และอาจจะร้างความไม่พอใจต่อต่างชาติที่ครอบครองอุตสาหกรรมกลุ่มนี้ และจะนำมาซึ่งการโยกย้ายเงินทุน ซึ่งมีมูลค่าสูงถึงระดับหลายหมื่นล้านบาทเลยทีเดียว

[IMAGE2]

หากคิดว่าเป็นไปไม่ได้ จะว่าไป ภาครัฐ คงคิดมองผลประโยชน์เป็นหลัก และแนวคิดดังกล่าวแม้จะมีข้อเท็จจริงอยู่พอสมควร แต่ไม่ใช่ว่า รถแห่งชาติไม่สามารถเป็นไปไม่ได้ ถึงแม้ว่า การจุตินั้นอาจจะยาก แต่หลายยุคสมัย การแท้งของรถยนต์แห่งชาตอ กลับมาจากความไม่ใส่และผลประโยชน์ที่ต่างชาติหอบเข้ามาในประเทศไทย ภายใต้การลงทุนมหาศาลนั่นเอง

ตัวอย่างที่ดีนั้น อยู่ที่ข้างบ้านเราอย่างมาเลเซีย ซึ่งพวกเขาเริ่มวาระรถแห่งชาติมาได้หลายสิบปีแล้ว แม้จะมีล้ม มีลุกบ้างตามสภาพทางเศรษฐกิจ และการแข่งขันของธุรกิจยานยนต์ในระดับโลก  แต่ท้ายที่สุด รถยนต์แห่งชาติมาเลเซีย ภายใต้แบรนด์  Proton   ก็เกิดขึ้น  ในปี 1982

โดยแผนธุรกิจยานยนต์ของ Proton ช่วงแรก พยายามคิดเองทำเอง แต่แล้วความชาญฉลาดก็เริ่มต้นขึ้น ด้วยการจับมือกับค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก  Mitsubishi   ที่เขามาเป็นพี่เลี้ยงที่สำคัญ และทำให้ค่ายรถยนต์มีการเรียนรู้เทคโนโลยีต่างๆที่สำคัญ และสำเร็จในการทำตลาด แม้อาจจะเป็นการนำรถรุ่นต่างๆมาแปลง แต่ท้ายที่สุด   Proton   ก็มีชื่อเสียงในเวทีรถยนต์ระดับโลก และได้รับการยอมรับจากค่ายรถยนต์หลายค่าย แม้แต่   Honda   ที่เพิ่งก้าวเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงใหม่เมื่อสองปีที่ผ่านมา

รวมถึงนอกจากขายรถยนต์แล้ว พวกเขายังเข้าครอบครองแบรนด์รถยนต์บางรายเพื่อใช้รากฐานความรู้เข้ามาเสริมการพัฒนารถยนต์ของตัวเอง อย่างการสนับสนุนค่ายรถสปอร์ตของประเทศอังกฤษ Lotus   รวมถึงยังสร้างการตื่นตัวในประเทศ ด้วยการทำให้ แบรนด์รถยนต์ภายในประเทศเกิดขึ้นอีกมาก อย่างเช่นแบรนด์  Peradua

[IMAGE3]

ถึงอาจจะฟังดูง่ายในแง่ของการปั้นแบรนด์รถยนต์ระดับชาติ แต่ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือการทำตลาด ภายใต้สภาวะการแข่งขันที่ดุเดือดปัจจุบัน การจะเกิดของวาระรถแห่งชาติหรือไม่นั้น จึงมาอยู่ที่การตัดสินใจของรัฐบาลที่อยากให้คนไทยมีแบรนด์รถยนต์ของตัวเองเกิดขึ้นหรือไม่

 ด้วยอาจจะต้องอาศัยพลังอำนาจในการบริหารเพื่อเจาะช่องตลาดให้แบรนด์คนไทยได้แจ้งเกิด ในตลาดรถยนต์ที่ไม่ต่างจากสงคราม ซึ่งสิ่งที่สำคัญ คือรัฐจะต้องเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนเป็นสำคัญ แต่การบริหารจะต้องเป็นไปในแบบบริษัทที่อิสระภายใต้การจัดการของรัฐ เพื่อให้มีแนวคิดทางธุรกิจต่างๆที่สามารถทำตลาดและแข่งขันกับค่ายรถยนต์ชั้นนำได้

นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า คือการจัดระเบียบตลาดยานยนต์ภายในประเทศในเกิดความเป็นธรรมมากขึ้น รถยนต์ที่ผลิตภายใต้วาระรถแห่งชาติ นอกจากต้องดึงดูดด้วยตัวมันเองแล้ว ยังต้องมีราคาที่อาจเอื้อมได้ง่าย และยังต้องทำให้เป็นรถที่คนคิดถึงเมื่ออยากจะมีรถ และทั้งหมดอยู่ที่ผู้เล่นที่สำคัญ  ภาครัฐบาลนั่นเอง

หากถามว่า การจุติของรถยนต์แห่งชาติเป็นไปได้หรือไม่ คำตอบคือเป็นไปได้ แต่นอกจากแรงสนับสนุนจากภาคประชาชนที่มีคนจำนวนไม่น้อย ก็อยากเห็นรถยนต์ที่ผลิตโดยคนไทย เพื่อคนไทย แต่ท้ายที่สุดแล้ว รถยนต์แห่งชาติ จะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ไม่ได้อยู่ที่คนในชาติ อย่างเดียว แต่อยู่ที่รัฐบาลที่มองว่าอยากจะเอาอย่างไรกับวงการธุรกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com