Deft Opionion : กฏหมาย“บิ๊กไบค์” หรือถึงเวลาที่ต้องคุยเรื่องนี้กันเสียที

บิ๊กไบค์กำลังเป็นจำเลยที่สำคัญของถนน เมื่อมันดูเกะกะอยู่เหนือกฏหมาย แต่อาจจะถึงเวลารึยังที่เราต้องจริงจังมาจับเข่าคุยกันว่าที่จริงควรมีกฏหมายเรื่องบิ๊กไบค์หรือเปล่า

 

 

ตั้งแต่เริ่มเป็นกระแสออกมาเมื่อช่วงสองสามปีก่อน จวบจนมาวันนี้ที่เราเห็นรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่มากมายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อผู้ผลิตชั้นนำทั้ง หลาย ต่างที่จะเดินหน้ามาทำตลาดสองล้อกลุ่มนี้ นาทีนี้ คงสามารถปฏิเสธได้ว่า บิ๊กไบค์ ถือเป็นปฐมบทใหม่ของวงการสองล้อในบ้านเรา ที่ทวีความนิยมอย่างมาก จนยากที่จะพูดว่ามันคือมอเตอร์ไซค์ธรรมดาทั่วไป

บิ๊กไบค์ เป็นคำที่ใช้เรียกมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ แต่ในขณะที่มันมีขนาดใหญ่ มันก็มาพร้อมสมรรถนะในการขับขี่ที่ลงตัวมากขึ้น ด้วยความสามารถที่มากกว่ามอเตอร์ไซค์จ่ายกับข้าวทั่วไป และความคล่องตัวแบบฉบับรถสองล้อ แม้จะขาดหลังคาและผนังคุ้มฝนบ้าง แต่มีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่

 [IMAGE1]

จำนวนที่มากขึ้น ทำให้บิ๊กไบค์เริ่มกลายเป็นที่โจษจันของสังคม โดยเฉพาะในแง่ของคำถามที่สำคัญว่า บิ๊กไบค์มีสิทธิอะไรที่ทำตามเหมือนที่รถยนต์ ไม่ว่าจะพฤติกรรมวิ่งในช่องทางด่วน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความสะดวกสบายและความปลอดภัยมากกว่า เนื่องจากบิ๊กไบค์แม้จะมีสมรรถนะกำลังเครื่องมากกว่า แต่กลับกัน ความคล่องตัวในการหักหลบ รถที่ออกจากซอยทางร่วมหรือทางแยกก็น้อยกว่า

ไปจนถึงเรื่องราวของการใช้ทาง บางอย่างเช่นการขึ้นสะพานข้ามทางร่วมทางแยก เนื่องจากความสะดวกมากกว่ารถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็ก และขนาดที่ใหญ่ของมันทำให้มีความมั่นคงมากกว่า ซึ่งเรามักจะเห็นผู้ขับขี่บิ๊กไบค์จงใจที่จะยินยอมทำความผิดเป็นประจำ เนื่องจากมันทั้งอำนวยความสะดวกมากกว่า และไม่ต้องระวัง เรื่องความปลอดภัยในระหว่างการขับขี่

 [IMAGE2]

แง่หนึ่งของมุมมองคือ บิ๊กไบค์กลายเป็นพกที่ทำพฤติกรรมอยู่เหนือกฎหมาย แต่ในอีกแง่ เราคงต้องยอมรับกันว่ากฎหมายสำหรับบิ๊กไบค์ควรจะมีการออกมาอย่างจริงจังได้แล้ว ด้วยจำนวนรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ที่เพิ่มมากขึ้น มียอดขายมากในปัจจุบัน  ทำให้พฤติกรรมที่เหนือกฎหมายมีมากขึ้นในมุมมองของคนที่ไม่เข้าใจ จนอาจจะดูเป็นเหมือนเรื่องที่ผิด

ที่จริงในมุมมองของชาวบิ๊กไบค์หลายคน พวกเขามีมุมมองในเรื่องของการที่ต้องฝ่าฝืนกฎว่า เป็นเรื่องของความปลอดภัยในการขับขี่ เนื่องจากสมรรถนะที่แรงของบิ๊กไบค์ทั้งหลาย และความไม่คล่องตัวเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป ดังนั้นการที่ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) ออกมาสร้างละครดราม่าเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมว่า  BigBike  มีสิทธิธรรมดาเท่ามอเตอร์ไซค์หนึ่งคันทั่วไป ก็และจะไม่เป็นธรรมนัก แม้เราจะทราบดีว่าการจ่ายค่าภาษีบิ๊กไบค์นั้นแพง แต่ก็ไม่ได้หมายถึงการซื้อสิทธิพิเศษทางการใช้ทาง

 [IMAGE3]

เพียงแต่มุมมองในเรื่องความปลอดภัยที่ดูสลักสำคัญนั้น เป็นเรื่องที่ควรเน้นหนักมากในการจัดระเบียบบิ๊กไบค์ทั้งหลาย รวมถึงยังมีส่วนช่วยลดความมั่วซั่วในการใช้ทางของทั้งรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่ทุกวันนี้เห็นได้บนถนนวิภาดีรังสิต ที่ไม่ว่า Honda click ,Yamaha fino  ต่างวิ่งตามตูดบิ๊กไบค์ให้คึกเพื่อสร้างความสะดวกกับตัวเอง ทั้งที่อันตรายกว่า เนื่องจากสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ด้อยกว่า นั้นเอง

สิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะทำได้ทันที คือการออกระเบียบในการควบคุมการขับขี่บิ๊กไบค์ ชี้ชัดในความพิเศษและได้เวลาจำแนกรถมอเตอร์ไซค์ระหว่างขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรดำเนินการมานานแล้ว และที่จริงกระแสบิ๊กไบค์ครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรก แต่มีมานาสมัยรุ่นพ่อ เพียงแต่ไม่มีใครสนใจมันอย่างจริงจังก็เท่านั้นเอง

 [IMAGE4]

การออกกฏหมายสำหรับบิ๊กไบค์เอง นอกจากจะจำแนกรถอย่างชัดเจน ซึ่งจะส่งผลดีต่อหลายฝ่าย ทั้งผู้ผลิตเองที่จะมีความชัดเจนในเรื่องขนาดของเครื่องที่จะเข้ากลุ่มบิ๊กไบค์มากขึ้น สามารถดำเนินถึงการปรับการเสียภาษีที่เหมาะสมมากขึ้น ตลอดจนผู้ใช้รถยนต์ และผู้ใช้บิ๊กไบค์ รวมถึงผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ทั่วไป ที่จะได้เข้าใจสิทธิในการใช้ทางร่วมกัน ว่าตรงไหนที่สามารถสิทธิได้ ตรงไหนที่ต้องขออนุญาต และส่วนไหนที่เรียกว่ากระทำความผิดกฎหมาย

เนื่องจากในปัจจุบัน ด้วยผู้ใช้บิ๊กไบค์เพิ่มจำนวนขึ้นมาก เมื่อเทียบกับหลายีที่ผ่านมา การกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างถูกสอนผ่านรุ่นสู่รุ่น โดยผู้ขับขี่ยุคก่อนที่กระทำกันมาก่อน เช่น การขับเป็นขบวนต้องชิดขวา ซึ่งแง่หนึ่งมันสร้างความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่ หรือจะเป็นการขับขี่ในช่องทางด่วน เนื่องจากความสะดวก แต่ท้ายที่สุดบางคนอ้างว่ามันปลอดภัย ซึ่งจะว่าไปมันก็จริงทั้งคู่

อย่างในต่างประเทศผู้ที่จะขับขี่บิ๊กไบค์ำด้ ต้องมีการสอบใบขับขี่พิเศษ ซึ่งจะจำกัดให้เฉพาะผู้ที่มีทักษะในการขับขี่เท่านั้น ซึ่งทำให้ผู้ที่ขับขี่บิ๊กไบค์สามารถใช้ทางด่วน หรือไฮเวย์ได้ โดยไม่ผิดกฏหมาย ซึ่งนี่เป็นเรื่องเป็นตัวอย่างที่รัฐบาลควรต้องกลับไปทบทวน

การซื้อบิ๊กไบค์มาขี่ในปัจจุบันเป็นเรื่องง่าย แต่สิ่งที่ยากกว่าคือการไม่รู้สิทธิในการใช้ทางของตัวเอง เพราะแม้บิ๊กไบค์จะเป็นเพียงรถมอเตอร์ไซค์ของหลายคน แต่สองล้อขนาดใหญ่มีความสามารถมากกว่ารถยนต์หลายรุ่นที่วางจำหน่ายในตลาดเสียอีก ดังนั้น อาจจะถึงเวลาแล้วที่ภาครัฐต้องจัดระเบียบด้วยกฎหมายอย่างจริงจังในเรื่องของบิ๊กไบค์

 

 

......ซึ่งที่จริงจะว่าไปเลิกเอากฎหมายจราจรเก่าพระเจ้าหายังทรงพระเยาว์มาใช้ได้แล้ว ด้วยการจราจรใหม่ที่วุ่นวายมากมาย และเพียงกฎหมายเก่าที่แก้แล้วแก้อีกดูจะล้าสมัยไปนานแล้ว..

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com