Deft Interview : สุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ...TSL อนาคต จากผู้นำเข้า สู่ผู้นำบริการหลังขาย
- โดย : Autodeft
- 28 มิ.ย. 58 00:00
- 138,895 อ่าน
ถอดรหัส TSL ผู้นำเข้าชั้นนำที่วันนี้กำลังจะแปลเปลี่ยนจากผู้ขายไปเป็นผู้ให้บริการหลังการขายรถนำเข้าทุกรุ่นทุกยี่ห้อ...
“รถนำเข้า” กล่าวถึงรถยนต์ประเภทนี้ คงไม่ต้องกล่าวว่ามันมีราคาค่าตัวแสนแพง และยังเป็นที่ถูกใจของผู้มีอันจะกินทั้งหลาย แต่ว่าปัญหาสำคัญคงไม่พ้นเรื่องการเข้ารับบริการหลังการขาย ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนทราบดีว่ารถปะเภทนี้ยากที่จะหาผู้เชียวชาญตัวจริง
ตลอดหลายปีที่ผ่าน TSL ถือเป็นผู้นำเข้ารถยต์เจ้าใหญ่อีกรายจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทางด้านยอดขายรถยนต์ แต่ตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงทำให้ทางผู้นำเข้าชั้นนำ เริ่มมองการผันตัวจากการเป็นเพียงผู้นำเข้ายนตรกรรมชั้นเลิศ มาสู่แนวทางที่อาจจะพอกล่าวได้ว่ายังไม่มีใครคิดมาก่อน
นางสาวสุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
คงมีไม่กี่คนที่คิดจะสามารถจะสนับสนุนบริการหลังการขายบรรดารถนำเข้าได้ครบวงจร แต่นั่นคือจุดที่ TSL กำลังจก้าวไปแต่งเติมมากกว่าแค่ยอดขายรถยนต์นำเข้าในปัจจุบัน
คุณ สุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช หรือ คุณเจ ผู้บริหารสาวไฟแรงของบริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ต่อไปนี้เราจะใช้โมเดลธุรกิจใหม่ คือบริการ นำการขาย โดยมีศูนย์บรืการเรื่องสี เรื่องเครื่องยนต์ และงานขาย ต่อไปนี้ที่ไหนที่เราขยายสาขาไปจะมีบริการหลังการขายตามไปเสมอ ซึ่งเราต้องการให้เป็นรูปแบบ One Stop Service
“ในวันนี้เราต้องยอมรับว่า ตลาดรถยนต์นำเขาก็ยังไม่มีความชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเซทราคา แนวทางภาษีจากภาครัฐ ซึ่งจะเห็นได้ว่าผู้นำเขาทุกรายจะมีแนวทางในการซื้อมาขายไปเสมอ ส่วนบริการหลังการขายอาจจะมีเน้นบ้างไม่เน้นบ้าง ซึ่งในวันนี้เราจึงมองว่า การบริการหลังการขาย คือหัวใจหลักสำคัญของธุรกิจบริษัท ในการนำพาบริษัทมากกว่าการขาย”
คุณ สุรีย์ภรณ์ กล่าวต่อไปว่า ณ วันนี้ ไม่ว่าลูกค้าจะซื้อรถยนต์นำเข้าจากที่ไหน เจ้าไหน ก็สามารถเข้ามาใช้บริการหลังการขายของ TSL ได้ ไม่เว้นกระทั้งลูกค้าของตัวแทนจำหน่ายเองเราก็รับ เช่นลูกค้าหมดระยะรับประกัน แล้วไม่อยากที่จะเข้าศูนย์บริการของตัวแทนจำหน่าย เราก็มีความยินดีที่จะให้บริการ
“ปีนี้เรามองว่าการเติบโต 20% ขอบริษัทจะมาจากการให้บริการขายกับลูกค้า ที่จริงแล้ว TSL เราเองมีความเชี่ยวชาญในเรื่องบริการพอสมควร โดยเฉพาะในเรื่องการซ่อมสี เรามีประสบการมายาวนาน และพอจะกล่าวได้ว่าเราเป็นผู้นำ”
แน่นอนตลาดรถยนต์นำเข้าในภาพรวมมีรถยนต์มากมายหลากหลายรุ่น ยิ่งประกอบกับรถบางรุ่นมีความล้ำสมัย อย่างเช่นเทคโนโลยีไฮบริด ซึ่ง คุณเจ กล่าวว่า อย่างเทคโนโลยีไฮบริดเรามีการซ่อมมาตั้งแต่เมื่อสิบปีที่แล้ว ทุกวันนี้รถยนต์รุ่นใหม่ก็มีการพัฒนาไปมาก แต่ช่างของเรา ก็มีการอบรมอย่างต่อเนื่อง
“แน่นอนพูดถึงแบรนด์นำเข้าที่ส่วนใหญ่อยู่ในตลาดรถยนต์ และเรามีความเชี่ยวชาญก็ต้องพูดถึง Mercedes Benz , Toyota และ Porsche เนื่องจากน้ำหนักของรถนำเขาส่วนใหญ่ในตลาดจะอยู่กับสามยี่ห้อนี้ ส่วนยี่ห้ออื่น เช่น Mini , Land Rover เป็นต้น ก็สามารถให้บริการได้เช่นกัน แต่ที่เราเชี่ยวชาญ เนื่องจากเป็นโมเดลที่ผู้นำเข้าส่วนใหญ่ขายมากที่สุดในตลาด”
คุณเจกล่าวต่อในแง่ของภาพรวมตลาดรถยนต์นำเข้าว่า ข้อดีคือธุรกิจรถนำเข้าเราทำธุรกิจกับคนในกลุ่มระดับ AAA คลาส ถามว่ามรการกระทบบ้างไหม ก็มีบ้างประมาณ 15% ในเรื่องการซื้อ-ขาย แต่ในเรื่องกำลังซื้อกลุ่มนี้มีอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้น้อยลง ซึ่งเมื่อไรมีรถโฉมใหม่ออกมาก็มีกำลังซื้อเข้ามา เพียงแต่ว่าจังหวะการใช้เงินจะมีความระมัดระวัง อาจจะชะลอการซื้อไปบ้างแต่ ถ้าถามเรื่องการบริการหลังการขายถือว่าไม่กระทบเลย ยิ่งถ้าคนใช้รถไม่เปลี่ยนรุ่นใหม่ ยิ่งต้องมาเข้ารับบริการ ยังไงรถก็ต้องซ่อม ซึ่งในส่วนของบริการหลังการขายยอดจะเพิ่มขึ้นตลอดเวลา แต่ในเรื่องการขาย ตอนนี้เราไม่เพิ่มยอดแล้ว ถือว่าซบเซา จากเป้าการขาย 400 คัน
คุณ สุรีย์ภรณ์ กล่าวทิ้งท้าย ว่า ที่จริงเรามองการเป็น Service Center ของรถนำเข้าในอนาคต อย่างเรื่องชิ้นส่วนเอง เราก็มีการจัดการในเรื่องของอะไหล่รถยนต์นำเข้า ซึ่งก็มีการจัดการสต๊อกด้วย และวันนี้ที่เราเปิดรับบริการลูกค้าใหม่ไม่เพียงแค่ของเรา แต่หมายถึงทั้งหมดของตลาดรถยนต์นำเข้า
งานนี้เรียกว่าน่าจะเป็นข่าวดี สำหรับใครที่มีรถยนต์นำเข้าอยู่ที่บ้าน แล้วไม่รู้ว่าจะไปรับบริการที่ไหนดี ..บอกเลยว่าทางออกเปิดแล้ววันนี้เพียงคุณเข้าไปใช้ศูนย์บริการของ TSL สาขา ซึ่งท้ายสุด คุณเจ แอบกระซิบว่าเร็วๆนี้กำลังจะเป็นศูนย์บริการใหม่ที่อุดรธานี และจะมีอีกศูนย์ที่กรุงเทพมหานครในเร็วๆนี้
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com