All New Toyota Commuter รถตู้ใหม่หมด ขายจริงที่ออสเตรเลีย เริ่ม 851,000 บาท

หลังจากโชว์ความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จาก ANCAP ไปแล้ว สำหรับ Toyota Commuter (Hiace) เจเนอเรชั่นที่ 6 และล่าสุดพร้อมแล้วที่จะจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ออสเตรเลีย

งานนี้มีให้เลือกทั้งแบบหลังคามาตรฐานและหลังคาสูงแบ่งเป็น 5 รุ่น ทั้งรุ่นหลังคามาตรฐานตู้ทีบ, หลังคามาตรฐานตู้กระจก, หลังคาสูงตู้ทึบ, หลังคาสูงตู้กระจก, และรุ่นท็อปหลังคาสูงตู้กระจก GL ด้วยโครงสร้างใหม่ แบบ Semi Bonnet เครื่องยนต์วางหน้า ให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกสบายพร้อมหน้าตาเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ 2 ชั้น ขนาบข้างกับไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบมัลติรีเฟลก์เตอร์ กันชนน้าใหม่ออกแบบใหม่พร้อมไฟตัดหมอกทรงกลม พร้อมไฟ DRL LED แนวตั้ง ด้านข้างยังดีไซน์คล้ายกับเจนเดิม กระจกมองข้างบานใหญ่เพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็น ประตูสไลด์เปิดได้ 2 ข้าง ด้านท้ายมีความเหลี่ยมสันมากขึ้นพร้อมไฟท้ายขนาดใหญ่ ล้ออัลลอยทูโทนกับกระทะล้อเหล็กพร้อมฝาครอบล้อขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 235/65 R16

มิติตัวรถเริ่มที่รุ่นหลังคามาตรฐาน ความยาว: 5,265 มม. ความกว้าง: 1,950 มม. ความสูง: 1,990 มม. ฐานล้อ 3,210 มม. น้ำหนัก: 2,200-2,305 กก. ส่วนรุ่นหลังคาสูง ความยาว: 5,915มม. ความกว้าง: 1,950มม. ความสูง: 2,280มม. ฐานล้อ 3,860 มม. น้ำหนัก: 2,340 – 2,665 กก. แต่มีความจุถังน้ำมันเท่ากัน 70 ลิตร

ภายในออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้งาน โดยห้องโดยสารภายในมีให้เลือกตั้ง 2 -17 ที่นั้ง พร้อมคอนโซลหน้าออกแบบใหม่หมดเพื่อการใช้งานที่ง่ายและสะดวก พร้อมออพชั่นครบทั้ง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน มาตรวัดความเร็วพร้อมจอแสดงข้อมูล MID 4.2 นิ้ว เครื่องปรับอากาศ เครื่องเสียงแบบจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว คันเกียร์ออกแบบใกล้ชิดกับคนขับและเบรกมือที่คราวนี้กลับมาใช้แบบคันโยกข้างเบาะคนขับ

ขุมพลังมีให้เลือกทั้งดีเซลและเบนซินเริ่มที่เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผันรหัส 1GD-FTV 2.8 ลิตร 177 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิด 450 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน แบบ D4-S 7GR-FKS 3.5 ลิตร V6 282 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 351 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที มีทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้เลือก

พร้อมระบบความปลอดภัยครบ Toyota’s Safety Sense system ประกอบด้วย ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (PRE-COLLISION SYSTEM),ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beam), ระบบเตือนการออกนอกช่องทางเดินรถ (Lane departure alert) ,ระบบเตือนมุมบอดด้านข้าง (Blind spot monitoring), ระบบเตือนการชนขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert (RCTA)) , ระบบอ่านป้ายจราจร Road Sign Assist (RSA) และถุงลมนิรภัย 3 จุด และรอบคัน 7 จุดมากสุด 9 สุด เบื้องต้นจำหน่ายทั้งหมด 9 รุ่นย่อย เริ่มต้น $38,640 - 70,140 หรือราว 851,000 – 1,545,000 บาท (ไม่รวมภาษีนำเข้าของเมืองไทย) ส่วนเมืองไทยพบกัน 11 มิถุนายนนี้

 

 

 

ที่มา Motoring