จับได้คาตา!! Toyota Camry ซาลูนเจนใหม่ค่ายสามห่วง..วิ่งทดสอบ ณ แดนอิเหนา

  • โดย : Autodeft
  • 27 ส.ค. 61 00:00
  • 8,454 อ่าน

เมื่อสองเดือนที่แล้ว ทีมงาน Autodeft นำเสนอภาพหลุดเก๋งซาลูนรุ่นหนึ่งที่พรางตัววิ่งทดสอบในเมืองไทย จนเป็นที่กล่าวขานนี่คือ เจนใหม่ของ Toyota Camry เจน 8

Toyota Camry

ล่าสุดเว็บรถยนต์ Autonetmagz เผยภาพเก๋งซาลูน วิ่งทดสอบที่ถนนแห่งหนึ่งในอินโดนีเซีย และเป็นที่แน่ชัดแล้วว่ามันคือ Toyota Camry เจนใหม่ แน่นอน และมีโอกาสที่จะจำหน่าย ต่อจากเมืองไทย

ซาลูนหรูรุ่นนี้เน้นความเท่และความหรูในคันเดียวกัน ตั้งแต่ชุดเกริ์ตรอบคัน ด้านหน้ามาในไสตล์ X Shape และล้ออัลลอยลายทูโทน และเวอร์ชั่นหรู เก๋ไก๋ในสไตล์ Keen Look ด้วย กระจังหน้าทรงเดียวกับรถแข่ง NASCAR พร้อมไฟหน้า bi-LED ทรงโฉบเฉี่ยวกันชนหน้ามีไฟตัดมหอกฝั่งอยู่ในชุดกันชนหน้า และไฟท้ายแบบ LED มีลักษณะเด่น พร้อมล้ออัลลอยลายหรูขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/45 R18 และ 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/55R17 โดยสร้างขึ้นบนแพลต์ฟอร์มใหม่ TNGA หรือ Toyota’s New Global Architecture (แพลตฟอร์มเดียวกันกับ Toyota Prius และ Toyota C-HR)

Toyota Camry

เมืองไทยและตลาดอาเซี่ยน มีแนวโน้มที่จะใช้ขุมพลังเดียวกับเมืองจีน ทั้งเครื่องยนต์เบนซินเวอร์ชั่นใหม่ Dynamic Force Engine Hybrid 2.5 ลิตร (รหัส A25A-FXS) ให้กำลังถึง 178 แรงม้าที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 120 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตร โดยให้กำลังรวม 211 แรงม้า แรงบิด 221 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVTพร้อม Sequential Shift 6 สปีด กับเครื่องเครื่องยนต์เบนซิน Dynamic Force Engine (รหัส A25A-FKS) ขนาด 2.5 ลิตร พร้อม VVT-iE ระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะควบคุมด้วยไฟฟ้า กำลังสูงสุด 206 แรงม้าที่ 6,600รอบ/นาที แรงบิด 252 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที และส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift-8AT

ปิดท้ายด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร คาดว่ายังใช้รหัสเดิม 6AR-FSE พร้อมระบบวาล์วแปรผันVVTI-W D-4S ให้แรงม้าสูงสุด 167 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตรที่ 4,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบSequential Shift การเผยโฉม Toyota Camry เจนใหม่ ยังไม่มีรายละเอียดแต่อย่างใด จะเป็นช่วงปลายปีนี้ หรือปีหน้าต้องติดตาม

Toyota Camry

Toyota Camry

 

ที่มา Indianautosblog และ Autonetmagz

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

 

5 เรื่องน่าสนใจ