เจาะรถเด่น!! Toyota C-HR Crossoverรุ่นล่า โชว์หล่อที่ Motor Expo 2017

นับเป็นยานยนต์ที่แฟนๆชาวไทยถามถึงกันมากสำหรับ Toyota C-HR Crossover รุ่นฮอต ที่มีข่าวลือสนั่นว่าจะเตรียมโชว์ตัวที่งาน Motor Expo 2017 นี้

ล่าสุด โตโยต้า ทนเสียงเรียกร้องของสาวกไม่ไหวส่ง Crossover รุ่นฮอต โชว์เรียกน้ำย่อยและเปิดให้รับจอง ก่อนขายจริง Toyota C-HR (Coupe-High Rider) มาในร่าง 5 ประตู ออกแบบเพื่อตอกย้ำแนวคิด Ever-better Cars และผลสำแร็จในด้านยอดขายทั่วโลก มากกว่า 260,000 คัน ภายนอกหล่อด้วยไฟหน้า Projector แบบ Bi-LED พร้อมไฟท้าย Full LED ล้ออัลลอยสำหรับเมืองไทยมาเป็นแบบ 5 ก้าน 17 นิ้วคู่กับยาง 215/60 R17 โดยสร้างจาพื้นฐาน Toyota’s New Global Architecture หรือ TNGA มิติตัวรถมีความยาว 4,350 มม. ความกว้าง 1,795 มม. ความสูง 1,550 มม. ฐานล้อ 2,640 มม.

ภายในสุดล้ำสมัยด้วยคอนโซลหน้าออกแบบเส้นสายมีความต่อเนื่องโค้งมน มาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านทรงสปอร์ต ช่องปรับอากาศดีไซน์เก๋และเย็นทั่วคันด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual-zone พร้อมเครื่องเล่น DVD แบบจอสัมผัส มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูล 4.2 นิ้ว เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 สมารถขนของได้จุใจ ทันสมัยด้วยนระบบ Telematics เชื่อต่อทุกเส้นทางอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งค้นหาพิกัดรถ เชื่อมต่อสัญญาณ WI-FI เป็นต้น

ขุมพลังสำหรับตลาดเมืองไทยชัดเจนแล้วว่า Toyota เลือกเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร มาประจำการ โดยมีถึง 2 ทางเลือกตั้งแต่ เครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-I ขนาด 1.8 ลิตร คาดว่าเป็นเครื่องเดียวกับ Corolla Altis รหัส 2ZR-FBE 141 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 177 นิวตัมเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-I ปิดท้ายด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid ขนาด 1.8 ลิตร 2ZR-FXE จาก Toyota Prius ให้กำลังสูงถึง 95 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 71 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร ทำให้ได้แรงม้ารวมถึง 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT โดยจะจำหน่ายในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า เท่านั้น

พร้อมระบบความปลอดภัยขั้นเทพ Toyota Safety Sense ประกอบด้วย ระบบความปลอดภัยก่อนการชน Pre-collision safety system, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Active cruise control, ระบบไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam, ระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งรถเมื่อเบี่ยงออกนอกเลน Lane departure alert with steering assistและ ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind-spot monitor พร้อมกล้องมองหลังพร้อมสัญญาณกะระยะ กับถุงลมนิรภัย 7 จุด

โดยเปิดขายจริงต้นปีหน้าเริ่มต้นไม่เกิน 1 ล้านบาท สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร และรุ่นท็อป Hybrid ราคาไม่เกิน 1,200,000 บาท มีจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่นย่อย สีตัวถังถึง 6 สีด้วยกัน สำหรับรุ่นไฮบริด และ 3 สี สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com