Mercedes-Benz GLC Facelift หล่อใหม่สปอร์ตอเนกประสงค์ค่ายตราดาว
- โดย : Autodeft
- 2 มี.ค. 62 00:00
- 10,123 อ่าน
ตลอด 3 ปี ที่ Mercedes-Benz GLC รับบทบาทเป็นอเนกประสงค์พระรองที่มีเสน่ห์เฉียบขาดและเทคโนโลยีที่ไม่เป็นรองใครจนได้รับการตอบรับอย่างดีจากสาวกทั่วโลกรวมถึงชาวไทย
ด้วยความเป็นรถยนต์ใหม่ที่นำพื้นฐานจากรุ่น C-Class มาพัฒนา รหัส X253 และเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ที่คุณจะได้เห็นรุ่นปรับโฉมอย่างเป็นทางการ Mercedes-Benz บรรจงสร้างหน้าใหม่ด้วยภายนอกที่หล่อกว่าถึงแทบไม่ต่างอะไรจากรุ่นเดิม แต่สังเกตุดีๆจะมีการปรับไม่ว่าจะเป็นโคมไฟหน้า LED Intelligent Light System พร้อมไฟ LED Daytime ในโคมเดียวกัน กระจังหน้าแบบสามมิติ มีโลโก้ดาวสามแฉกขนาดใหญ่ตรงกลางบนลาย 2 แถบ ดีไซน์เดียวกับรุ่นพี่ GLE รวมถึงกันชนหน้าดีไซน์พร้อมชุดแต่งกันชนใหม่แบบเดียวกับรุ่น GLA ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED ออกแบบใหม่ รวมถึงกันชนหลังออกแบบใหม่เสริมเขี้ยวเล็บด้วยชุดแต่งใต้กันชนหลังใหม่ และล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 19-20 นิ้วแบบเข้มถึงใจ
ภายในยกชุดดีไซน์มาจากรุ่น C-Class ตั้งแต่ มาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน ทั้งแบบธรรมดาและแบบท้ายตัดพร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control รวมถึงระบบความบันเทิงเวอร์ชั่นใหม่ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) พร้อมจอสัมผัส 10.25 นิ้ว ที่ควบคุมความบันเทิงกับการสื่อสารผ่าน สมาร์ทโฟนเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง LINGUATRONIC voice control พร้อมคำทักทายสุดเก๋ “Hey Mercedes” พร้อมจอเรือนไมล์แบบดิจิทัล มีขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยีระบบ All-Digital instrument display และการตกแต่งผิวสัมผัสและเบาะหุ้มหนังแท้คุณภาพใหม่
ขุมพลังค่าย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตัดเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่เดิม OM651 2.1 ลิตรในรุ่น GLC250d ออกจากสารระบบ เป็นขุมพลังใหม่ OM654 2.0 ลิตร ที่มีความแรงหลากหลายเริ่มที่แรงเล็ก 160 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบ/นาทีในรุ่น GLC 200d แรงต่อมากับ 194 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที ในรุ่น GLC 220d ส่วนรุ่น GLC 300d ได้ขุมพลังเดียวกันแต่ปรับแรงม้ามากขึ้นเป็น 245 แรงม้าที่ 4,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที ทั้งสามขนาดจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9 G-Tronic และระบบขับสี่ 4MATIC
ส่วนเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบมาในรหัส M264 2.0 ลิตร ตั้งแต่ 197 แรงม้าที่ที่ 5,800 – 6,100รอบ/นาที แรงบิด 280 นิวตันเมตรที่ 3,000 – 4,000 รอบ/นาที ในรุ่น GLC 200 ส่วนรุ่น GLC 300 258 แรงม้าที่ 5,800-6,100 รอบ/นาที แรงบิด 370 นิวตันเมตรที่ 1,800-4,000 รอบ/นาที ทั้ง 2 ขนาดมาพร้อมระบบ EQ Boost ที่สามารถเสริมกำลังเครื่องยนต์ได้ ถึง 14 แรงม้า รองรับการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดสูงสุดถึง 150 นิวตันเมตร รวมถึงสามารถ สร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ (Mild Hybrid 48V)ได้ โดยเป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9 G-Tronic และระบบขับสี่ 4MATIC
ระบบความปลอดภัยเพิ่มมาเต็มคันอาทิ ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า Active Distance Assist Distronic, ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัย Active Steering Assist, ระบบรักษารถให้อยู่ในช่องจราจร Active Lane Keeping Assist, ระบบเตือนจุดอับสายตา Active Blind Spot Assist, ระบบเปลี่ยนช่องจราจรเมื่อเกิดเหตุคับขัน Active Lane Change Assist เบื้องต้น Mercedes-Benz GLC Facelift อเมริกาเริ่มต้นจำหน่ายช่วงปลายปี 2019 ส่วนเมืองไทยมีแนวโน้มสูงที่จะจำจำหน่าย
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com