All New Land Rover Defender การกลับมาของตำนานขาลุยแห่งเมืองผู้ดี
- โดย : Autodeft
- 11 ก.ย. 62 00:00
- 7,721 อ่าน
เกือบ 70 ปีที่ขาลุยรุ่นเก๋าอย่าง Land Rover Defender รับใช้สาวกมายาวนานจนกลายเป็นตำนาน Best 4x4 Far อันโด่งดังของค่าย Land Rover
ล่าสุดค่ายรถยนต์จากเมืองผู้ดีใช้เวทีงาน Frankfurt Motor Show 2019 เปิดตัวอย่างเป็นทางการโดยมีให้เลือกทั้งแบบ 3 ประตู Defender 90 และ 5 ประตู Defender 110 รูปร่างหน้าตายังคงมีกลิ่นไอความคลาสสิกจากเจนที่แล้วผสมผสานกับต้นแบบ Land Rover DC100 Defender Concept จนกลายเป็นออฟโรด ที่ดุดิบ อย่างเต็มรูปแบบ มาพร้อมความทันสมัยด้วยไฟหน้า LED พร้อมชุดกระจังหน้า กันชนหน้าดีไซน์บึกบึน ซุ้มล้อดีไซน์เหลี่ยมบ่งบอกความดุดัน พร้อมล้อและยางที่มีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ กระทะล้อเหล็กสีขาวขนาด 18 นิ้ว ไปจนถึงล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 22 นิ้ว Luna alloys ช่องกระจกเล็กๆบนหลังคาซ้าย-ขวาอีกหนึ่งมรดกตกทอด และไฟท้ายแนวตั้ง
ภายในนำความคลาสสิกและความโมเดิร์นมาผสมกันจนลงตัวตังแต่แผงคอนโซล มาตรวัดดิจิตอล จอสัมผัสขนาดใหญ่ และจอแสดงข้อมูลเหนือแผงคอนโซล head-up displayและเบาะนั่งให้เลือกหลากหลายโดยรุ่น Defender 110 มาในแบบ 5,6 และ 7 ที่นั่ง และการกตกแต่งภายในที่แตกต่างกัน
ขุมพลังสำหรับสิงห์ออฟโรดรายนี้มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร 300 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบ/นาที กับเบนซิน 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร 400 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 550 นิวตันเมตรที่ 2,000-5,000 รอบ/นาที พร้อมระบบ Mild Hybrid เสริมในเรื่องความประหยัด ประกอบด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับและ แบตเตอรี่แบบ lithium-ion battery ทั้ง 2 ขนาดจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD มาพร้อมเกียร์ฝาก 4WD แบบ twin-speed transfer box
ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบมีให้เลือกเช่นกันตั้งแต่ขนาด 2.0 ลิตร ให้ความแรงถึง 2 สเตป ทั้งแบบ 200 และ 240 แรงม้าที่แต่การทำงานเท่ากันคือ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 430 นิวตันเมตรที่ 1,400 รอบ/นาที พร้อมระบบความปลอดภัย Adaptive Cruise Control และ Rear Pre-Collision Monitor, Rear Traffic Monitor, Clear Exit Monitor, Emergency Braking, Lane Keep Assist, Traffic Sign Recognition, Driver Condition Monitor เป็นต้น
All New Land Rover Defender มีรุ่นย่อยให้เลือกทั้งพื้นฐาน, S, SE, HSE, X และ First Edition โดยเบื่องต้นจำหน่ายแล้วที่อังกฤษและอเมริกา ส่วนเมืองไทยมีแนวโน้มที่จะนำเข้ามาจำหน่าย
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com