เจาะรถเด่น!! KIA Stinger เก๋งพรีเมี่ยมสายเลือดกิมจิ คาดเข้าไทยปลายปีนี้

นับตั้งแต่ KIA ประเทศไทย โดยยนตรกิจ ประสบความสำเร็จจากรุ่น Grand Carnival จนกลายเป็นFull Size MPV ที่พ่อบ้านชาวไทยสนใจและมียอดจองอย่างล้นหลาม

ล่าสุด KIA ประเทศไทย โดยยนตรกิจ พร้อมแล้วที่จะนำเสนอรุ่นใหม่ๆให้คนไทยได้สัมผัสกันนั่นคือ KIA Stinger เก๋งพรีเมี่ยมหรูที่ตั้งใจสร้างหวังท้าชนกับ Lexus IS, Audi A4 และ A5 รวมถึง BMW 3 Series และ 4 Series ด้วยขนาดตัวรถที่ใหญ่พอๆกับ Lexus GS และ Mercedes-Benz CLS ตั้งแต่ความยาว 4,830 มม. กว้าง 1,870 มม. สูง 1,400 มม. ฐานล้อยาว 2,905 มม. และความสูงจากใต้ท้องรถ 130 มม. พร้อมดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่กระจังหน้าจมูกเสือ (Tiger Nose) ที่โดดเด่น พร้อมไฟหน้าแบบ LED พร้อมหลังคาที่ออกแบบลาดลงบ่งบอกความเป็น สปอร์ตเต็มขั้น รวมถึงบั้นท้ายทีมีไฟ LED ทรงเล็ก มีเสน่ห์ และล้ออัลลอยลายสปอร์ตที่เลือกไดทั้งขนาด 18 พร้อมยาง 225/45 R18 และ 19 นิ้ว ที่มาพร้อมยางสปอร์ตแบบ 225/40 R19 ในล้อหน้า และ 255/35 R19 ในล้อหลัง

ภายในยกความเป็น Euro Sport ด้วยแผงคอนโซลหน้าสุดเท่ พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน ช่องแอร์ทรงกลม 3 ช่อง พร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่ 7 นิ้ว UVO infotainment system พร้อมลำโพง เลือกได้ทั้ง 6 กับ 9 ตัว พิเศษ!! ลำโพงคุณภาพจาก Harmon Kardon ถึง 15 ตัว กำลังขับ 720 W เอาใจคอสมาร์ทโฟนด้วยระบบชาร์จไร้สาย wireless charging และจอแสดงเหนือแผงมาตรวัด head-up display และหรูหราด้วยเบาะหนังแท้ Nappa

ขุมพลัง KIA Stinger มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ Theta II 2.0 ลิตร 255 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิด 353 นิวตันเมตร ที่ 1,400-4,000 รอบ/นาที กับเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่ Lambda II 3.3 ลิตร V6 365 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 510 นิวตันมเตร ที่ 1,300-4,500 รอบ/นาทีและเครื่งยนต์ดีเซลเทอร์โบ CRDI 2.2 ลิตร 200 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 440 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,750 รอบ/นาที โดยเครื่องยนต์ทั้งสามรุ่นจะส่งลงชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และยังมาพร้อมระบบขับหลังและขับสี่ AWD

เกีย มอบระบบความปลอดภัยจัดเต็มไม่ว่าจะะเป็น ระบบเตือนป้องกันการชนด้านหน้า Forward Collision Assistance (FCA) ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Driver Attention Alert (DAA) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking (AEB) ระบบ Adaptive Cruise Control, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keep Assist (LKA), ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA) และมั่นใจได้ ด้วยระบบควบคุมการทรงตัว Dynamic Stabilities Damping Control เป็นต้น  โดยทางต้นสังกัดเตรียมที่จะเผยตัวจริงในช่วงปลายปีนี้คาดมาทันงาน Motor Expo 2017 ที่จะจัดขึ้นช่วง 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม นี้

 

ที่มารูปภาพ Caradvice

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com