BMW X1 Facelift หล่อใหม่…อเนกประสงค์น้องเล็กจากเยอรมัน

4 ปีของการทำตลาด เจน 2 สำหรับ BMW X1 อเนกประสงค์น้องเล็กสุดในตระกูล X ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจนเป็นที่ยอมรับสำหรับกลุ่มคนเมืองยุคใหม่อย่างแท้จริง

ครั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู เติมเต็มความใหม่สด เปิดตัว BMW X1 (F48) รุ่นปรับโฉม หรือ Facelift (LCI หรือ Life Cycle Impulse) ครั้งแรกในรอบ 4 ปี เปลี่ยนภายนอกใหม่ตั้งแต่ กระจังหน้าทรงไตคู่ twin-kidney ดีไซน์ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม พร้อมไฟหน้า LED ออกแบบใหม่รับกับกระจังหน้าลงตัวด้วยชุดกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตออกแบบช่องระบายอากาศใหญ่ขึ้น ดุดันขึ้น ตกแต่งขอบโครเมี่ยม เสริมความหรูขึ้นอีกระดับด้วยไฟตัดหมอกหน้า LED ขนาดเล็ก และไฟท้าย LED รูปตัว L ใหม่ เสริมหล่อเด่นอย่างชัดเจน พร้อมกันชหนหลังใหม่ ตกแต่งด้วย diffuser หรือลิ้นเสริมกันชนหลังพร้อมท่อไอเสียทรงกลมสองฝั่ง ล้ออัลลอยลายใหม่เลือกได้หลายขนาด

ภายในยังคงเดิมด้วยแผงหน้าปัดพร้อมการตกแต่งแบบวัสดุอลูมิเนียม พร้อมผิวสัมผัส คอนโซลกลางพร้อมหน้าจอสัมผัสเลือกทั้งขนาด 8.8 และ 10.25 นิ้ว พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์กับปุ่ม iDrive สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth USB และ AUX หรูด้วยเบาะนั่งดีไซน์ใหม่ให้โอบกระชับมากขึ้นปรับไฟฟ้าคู่หน้าพร้อมระบบบันทึกความจำ เบาะหลังสามารถพับได้แบบ 40:20:40 เพื่อรองรับการขนสัมภาระ ที่สามารถรองรับความจุถึง 1,550 ลิตร และ คอนโซลเกียร์ใหม่จับกระชับขึ้น

ขุมพลังในตระกูล TwinPower Turbo มีให้เลือกหลายขนาดทั้งเบนซิน ดีเซล และ Plug-In Hybrid เริ่มที่รุ่น xDrive25e Plug-In Hybrid มาพร้อมพลังเบนซินเทอร์โบ 3 สูบ 1.5 ลิตร 125 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตรโดยทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังพิเศษถึง 95แรงม้า แรงบิด 165 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่ Li-ion เก็บกระแสไฟฟ้า เมื่อสองสิ่งทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกัน จะให้กำลังรวมถึง 231 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบขับสี่ AWD แบบ xDrive พร้อมกำลังของแบตเตอรี่ลิเธียม แถมใช้พลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวเดินทางไกลว่า 50 กิโลเมตร และเบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร 231 แรงม้าที่ 5,000–6,000 รอบ/นาที แรงบิด -50 นิวตันเมตรที่ 1,250–4,500 รอบ/นาทีในรุ่น xDrive25i ขับเคลื่อน 4 ล้อ

ด้านเครื่องยนต์สันดาปมีให้เลือก เริ่มจากเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1.5 ลิตร 3 สูบ 116 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 270 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,250 รอบ/นาที ในรุ่น sDrive16d ขับเคลื่อนล้อหน้า ใหญ่สุดกับขนาด 2.0 ลิตร 231 แรงม้าที่ 4,400 รอบ/นาที แรงบิด 450 นิวตันเมตรที่ 1,500 – 3,000 รอบ/นาที ในรุ่น xDrive 25d ขับเคลื่อน 4 ล้อ ทุกขนาดเครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด และ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic

นอกจากนี้มาพร้อมสีใหม่ถึง 3 สีทั้งสี Jucaro Beige metallic สี Misano Blue metallic และสี Storm Bay metallic โดย BMW เตรียมจำหน่ายเร็วๆนี้ทั้งในยุโรป กับ อเมริกา ส่วนเมืองไทยมีแนวโน้มที่จะเปิดตัวเช่นกัน

ที่มา Carscoops

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com