เจาะรถเด่น!! 2022 Toyota Camry Facelift หล่อใหม่เก๋งกลางสปอร์ตมือพิฆาต Accord มีแววสูงที่จะเผยไทย

นับเป็นอีกหนึ่งรุ่นจากค่ายสามห่วง ที่ออกมาฟาดฟันกับคู่แข่งระดับเดียวกันอย่าง Honda Accord มาตลอดสำหรับ Toyota Camry เก๋งกลางเจน 8 ที่ดีไซน์ ความเท่ยังคงนยอดนิยมเสมอมาสำหรับตลาดเมืองไทย

โดยมีข่าวลือว่า Honda Accord เตรียมที่จะปรับโฉม มืหรือทาง โตโยต้า จะอยู่เฉยได้ โดยมีความเป็นไปได้ว่าเตรียมพร้อมที่จะเปิดตัวรุ่นปรับโฉมหรือ Facelift Toyota Camry นั่นเองโดยยึดความหล่อใหม่แบบเดียวกับเวอร์ชั่นอเมริกัน กับ ญี่ปุ่น และยุโรป ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าทรงสปอร์ตพร้อมไฟหน้าทรงเดิมแบบ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Light กันชนหน้าใหม่ออกแบบให้สปอร์ตมากขึ้น พร้อมช่องระบายอากศออกแบบใหม่รับกับคิ้วโครเมี่ยมขอบซ้าย-ขวา และไฟตัดหมอกหน้า LED ไฟท้าย LED รับกับกันชนท้ายใหม่เสริมลุคส์สปอร์ตด้วยพร้อมล้ออัลลอย 18 นิ้วลายใหม่ พร้อมยาง 235/45 R18 และขนาด 17 นิ้วใหม่พร้อมยาง 215/55R17 และขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 205/65R16

ภายในมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยตรงบริเวณจอสัมผัสขนาดกับช่องแอร์มีการสลับตำแหน่งกันโดยจอสัมผัสขนาดใหญ่ไปอยู่ตำแหน่งอยู่ด้านบนสุดโดยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 9 นิ้วใหม่ รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay พร้อมออพชั่นเดิมๆทั้ง มาตรวัดเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 7 นิ้ว โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตหรู แสดงสถานะการทำงานของระบบต่างๆ อย่างเด่นชัด หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ Head-Up Display 10 นิ้ว สะดวกสบายสูงสุด ระบบปรับอากาศแยกอิสระ 3 โซน ซ้าย-ขวา และด้านหลังพร้อมระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร nanoe อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย รองรับระบบการชาร์จไฟแบบ Qi ชาร์จไฟสะดวก พร้อม ช่องต่อ USB ด้านหลัง 2 ช่อง สะดวกสบาย ชาร์จไฟสะดวกสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับได้ 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้านุ่มสบาย ผ่อนคลาย ลดความอับชื้น ด้วยพัดลมใต้เบาะและพนักพิง ผ่อนคลายและสะดวกสบายตลอดการเดินทาง

สำหรับเมืองไทยจำหน่ายด้วยกัน 3 ขนาด เริ่มที่เครื่องเครื่องยนต์เบนซิน Dynamic Force Engine (รหัส A25A-FKS) ขนาด 2.5 ลิตร พร้อม VVT-iE ระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะควบคุมด้วยไฟฟ้า กำลังสูงสุด 209 แรงม้าที่ 6,600รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที และส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift-8AT กับเครื่องยนต์เบนซิน Dynamic Force Engine Hybrid VVT-IE เจเนอเรชั่นที่ 4 ที่พัฒนามาเพื่อมอบความรู้สึกสนุกในการขับขี่ พร้อมประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันที่ดียิ่งขึ้นขนาด 2.5 ลิตร (รหัส A25A-FXS) ให้กำลังถึง 178 แรงม้าที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 120 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตร โดยให้กำลังรวม 211 แรงม้า แรงบิด 221 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVTพร้อม Sequential Shift รองรับน้ำมันสูงสุด E20

ส่วนขนาด 2.0 ลิตร อาจมีแนวโน้มได้ใช้ขุมพลังใหม่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน Dynamic Force รหัสใหม่ M20A-FKS มาประจำการได้พลัง 170 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาทีแรงบิด 202 นิวตันเมตรที่ 4,400- 4,800 รอบ/นาที พร้อมระบบฉีดจ่ายน้ำมันโดยตรง D-4S direct injection และควบคุมการเปิด-ปิด วาลว์ไอดี VVT-iE electric variable valve timing จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ Direct Shift 10 สปีด พร้อม paddle shift แทนเครื่องเดิม 6AR-FBS พร้อมระบบวาล์วแปรผันVVTI-W D-4S ให้แรงม้าสูงสุด 167 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตรที่ 4,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบ Sequential Shift

จับตาสเปกไทยอาจได้ระบบความปลอดภัยเวอร์ชั่นใหม่ Toyota Safety Sense 2.5 โดยอัพเดตระบบป้องกันการชนพร้อมสัญญาณตรวจจับคนเดินถนน Pre-Collision System with Pedestrian Detection สามารถตรวจจับคนเดินถนนและคนขี่จักรยานได้ถึงแม้สภาพแสงจะน้อยก็ตามและยังตรวจจับขณะอยู่จุดมุมอับทั้งซ้ายขวา นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ full-speed dynamic radar cruise control, ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ lane departure alert, ระบบช่วยบังคับควบคุมรถให้อยู่ในเลนอัตโนมัติ lane tracing assist, ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ automatic high beams, ระบบจำป้ายจราจร road sign assist, ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ rear cross-traffic alert, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง a blindspot monitor เบื่องต้นถึงยังไม่มีข้อมูลว่าจะเปิดตัวช่วงไหนแต่คาดว่าจะได้พบกันภายในปีนี้สำหรับ Toyota Camry Facelift

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com