อยากให้มาไทย!! 2022 The All New Mercedes-Benz C-Class ใหม่หมดเก๋งน้องเล็กสุดไฮเทคสุดพรีเมี่ยม

เกือบ 40 ปี ที่ Mercedes-Benz C-Class รับหน้าที่เป็นเก๋งคอมแพ็ครุ่นสำคัญของค่ายที่มีชื่อเสียงและสร้างยอดขายสร้างกำไรให้กับทางค่ายตราดาวมายาวนานสืบทอดความเป็นตัวตนที่ชัดเจนมาตลอดตั้งแต่เจเนอรเรชั่นแรกจนถึงเจเนอเรชั่นที่ห้า

ล่าสุด The All New Mercedes-Benz C-Class เจนเนอเรชั่นที่หกเปิดตัวอย่างเป็นทางการและเป็นครั้งแรกที่เปิดตัวพร้อมกันทั้งในตัวถังซีดาน W206 และ เอสเตท S206 โดยมีคล้ายละม้ายกับรุ่นพี่ใหญ่ Mercedes-Benz S-Class เจนใหม่ ตั้งแต่ กระจังหน้าแบบ diamond-pattern grille มีเส้นตัดแบ่งเส้นเดียวอันเป็นเอกลักษณ์ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไฟหน้าแบบ Digital Light LED มีการปรับขนาดโคมไฟให้เล็กและเรียวขึ้นพร้อมความสว่างที่กว้างไกลกว่าเดิม ชุดกันขนหน้าดีไซน์ใหม่นเน้นความสปอร์ต ด้านหลังดีไซน์ไฟท้าย LED แบบเดียวกัน ถัดลงมาเป็นกันชนหลังดีไซน์เท่ พร้อมกรอบท่อไอเสียคู่ 2 ฝั่ง พร้อมล้ออัลลอยขนาดใหญ่ที่มีหลายแบบ ตัวรถมีความใหญ่ขึ้นในทุกมิติเมื่อเทียบกับเจนที่แล้ว W205

ภายในถอดแบบมาจาก Mercedes-Benz S-Class ไม่ว่าจะเป็น มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน คอนโซลกลางแบบจอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ OLED 11.9 นิ้ว รวมการทำงานของเครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิ กับระบบความบันเทิง MBUX (Mercedes-Benz User Experience) เอาไว้ด้วยกัน พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงพร้อมคำทักทายสุดเก๋กับคำว่า “Hey Mercedes” กับเบาะหนังแท้คุณภาพ และไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Lights พร้อมพื้นที่สัมภาระมากถึง 455 ลิตร

ขุมพลังที่จำหน่ายในช่วงแรกมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ดีเซลเทอร์โบ และ Plug-In Hybrid เริ่มที่เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ M254 2.0 ลิตร twin-scroll turbocharger พร้อมระบบ Mild Hybrid สร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ได้ โดยเป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษ พร้อม EQ Boost ให้กำลังถึง 20 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร บนพื้นฐานความแรง 258 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 3,200 รอบ/นาทีในรุ่น C300 และเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร รหัส M270 มีความแรงถึง 2 ระดับตั้งแต่ 204 แรงม้าที่ 5,800-6,100 รอบ/นาที แรงบิด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,800-4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 48 โวลต์ Mild Hybrid พร้อม EQ Boost 20 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร ในรุ่น C200 และ 170 แรงม้าที่ 5,500-6,100 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,800-4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 48 โวลต์ Mild Hybrid พร้อม EQ Boost 20 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร ในรุ่น C180

และในรุ่น C300e Plug-In Hybrid ยังมีเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ รหัส M254 2.0 ลิตร ให้กำลังเครื่องยนต์ 197 แรงม้า ให้แรงบิดสูง 320 นิวตันเมตร มันจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 129 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ส่งกำลังบำรุงด้วยแบตเตอร์รี่ใหม่ขนาด 25.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถชาร์จไฟได้เต็ม ใน 30 นาที ด้วย  DC Charger สูงสุด 55 KW  และมี  AC Charger 11 KW ในนโหมดไฟฟ้าล้วนสามารถวิ่งไกลสุด 100 กม. และทำความเร็วได้สูงสุด 140 ก.ม./ช.ม.

นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร รหัส OM654 M พัฒนาใหม่พร้อมระบบ Mild Hybrid สร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ได้ โดยเป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษพร้อม EQ Boost ให้กำลังถึง 20 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร บนพื้นฐานความแรงถึง 2 ระดับตั้งแต่ 265 แรงม้าที่ 4,200 รอบ/นาที แรงบิด 550 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,200 รอบ/นาทีในรุ่น C300d และ 200 แรงม้าที่ 4,200 รอบ/นาที แรงบิด 440 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที ในรุ่น C220d ทุกขนาดเครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-TRONIC เลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC เลือกได้ในรุ่น C200 และ C300

1 ใน 3 รุ่นหลักของค่ายตราดาวที่มียอดขายสะสมมากกว่า 10.5 ล้านคัน อย่าง The All New Mercedes-Benz C-Class พร้อมขายจริงที่ยุโรปภายในปีนี้ ส่วนเมืองไทยคาดว่าปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้าได้พบกัน

 

ที่มา Carscoops และ Damlier

 

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com