Mercedes-Benz E-Class MY2019 เก๋งหรูหล่อเดิม...เพิ่มเติมความแรงใหม่

3 ปีของการทำตลาด Mercedes-Benz E-Class เจน 10 ที่สร้างยอดขายเป็นจำนวนมากและเป็นเก๋งหรูยอดนิยมที่ครองใจสาวกมายาวนาน

ภายใต้สรหัส W213 (ซีดาน) และ S213 (เอสเตท) นั้นหน้าตายังคงเดิมทุกประการ เพิ่มเติมด้วยชุดแต่งเล้กๆน้อยๆ เสริมความหรูขิ้นอีกระดับในแบบ SportStyle Package ทั้งภายนอกและภายใน ทั้งชุดตกแต่งโครเมี่ยม วัสดุหุ้มเบาะ คอนโซล แผงประตูด้วยหนังคุณภาพ วัสดุหุ้มหลังคารถแบบผ้าขึ้นรูป รวมถึงแป้นคันเร่งสแตนเลส ในรุ่น Exclusive ส่วนรุ่น Avantgarde ภายนอกตกแต่งด้วยกระจังหน้าพร้อมโลโก้ดาวสามแฉก สีดำเข้ม high-gloss black ชุดแต่งโครเมี่ยมและภายในตกแต่งด้วยวัสดุ อลูมิเนียม พร้อมล้ออัลลอยลายเท่ 4 แบบ ขนาด 17 กับ 18 นิ้ว ทั้งในรุ่น Avantgarde และExclusive

ภายในยกความหรูมาจากรุ่นพี่ Mercedes-Benz S-Class ด้วยแผงหน้าปัดใหม่หมดแบบ Dual Screen Cockpit ด้วยหน้าจอ 2 ขนาดใหญ่ พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสามก้านทรงใหม่ รวมถึงระบบความบันเทิงและสื่อสาร COMAND Online infotainment system ชุดลายไม้ใหม่แบบ high-gloss brown walnut เติมเต็มความหรูขึ้นอีกระดับ

ขุมพลังงานนี้ Mercedes-Benz E-Class มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่จากพี่ใหญ่ S-Class มาประจำการ ขนาด 3.0 ลิตร 6 สูบแถวเรียง รหัส OM656 340 แรงม้าที่ 3,600–4,400 รอบ/นาที แรงบิด 700 นิวตันเมตรที่1,200 – 3,200 รอบ/นาที ในรุ่น E 400 d 4 MATIC และยังมีเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร เลือกความแรงได้สองระดับตั้งแต่ 150 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร และ 245 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ทุกขนาดเครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 สปีด 9G-Tronic 

เท่านั้นยังไม่พอในส่วนเวอร์ชั่นแรงอย่าง Mercedes-AMG E-Class เผยรุ่นใหม่ E53 แทนรุ่นเดิม E43 ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Bi-Turbo 3.0 ลิตร V6 ให้กำลังสูงถึง 435 แรงม้า แรงบิด 520 นิวตันเมตร พร้อมระบบ Mild Hybrid เสริมความแรงและประหยัดประกอบด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 48V electrical system และ EQ Boost starter generatorให้พลังเสริม 22 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร เชื่อมต่อความแรงด้วยเกียร์อัตโนมัติ AMG Speedshift TCT 9G 9 สปีด ขับเคลื่อนระบบขับ 4 AWD (4MATIC) พร้อมระบบ AMG Ride Control+ air suspension เพื่อการขับขี่สนุกสนานยิ่งขึ้น เก๋งหรูมาดใหม่จาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมที่จะจำหน่ายเร็วๆนี้ซึ่งรวมถึงเมืองไทยด้วย จับตาดูว่าเมืองไทยจะนำเครื่องยนต์ดีเซลกลับมาอีกครั้งหรือไม่ต้องติดตาม

 

ที่มา Paultan

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com