Toyota Land Cruiser Prado Facelift อเนกประสงค์หรูปรับโฉม….ค่ายสามห่วง
- โดย : Autodeft
- 13 ก.ย. 60 00:00
- 17,926 อ่าน
ในที่สุด Toyota ใช้เวทีงานแสดงรถระดับโลก Frankfurt Motor Show 2017 เปิดตัวที่สุดอเนกประสงค์หรูพรีเมี่ยมอย่าง Toyota Land Cruiser Prado Facelift ให้ทั่วโลกได้สัมผัสกัน
Toyota Land Cruiser Prado เป็นการปรับโฉมอีกครั้ง(ร่างเจน 4) หลังลากขายยาวถึง 8 ปี ภายนอกหล่อตามคาดด้วยกระจังหน้าลายใหม่ทรงหกเหลี่ยมทรงเดียวกับพี่ใหญ่ Land Cruiser 200 แต่ยังคงเอกลักษณ์แนวตั้ง 5 ซี่ ประทับด้วยโลโก้สามห่วงเช่นเดิม พร้อมไฟหน้าใหม่ LED พร้อมไฟ DRL คู่กับกันชนหน้าทรงใหม่ ด้านท้ายยกเครื่องเปลี่ยนใหม่ ตั้งแต่ฝาท้ายไฟท้ายกันชนหลังใหม่และฝาครอบล้อดีไซน์ใหม่ (สำหรับเวอร์ชั่นญี่ปุ่นและยุโรปยางอะไหล่จะอยู่ใต้ท้องรถ) และล้ออัลลอยลายใหม่สีทูโทน ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 265/55 R19 สำหรับเวอร์ชั่นญี่ปุ่นและยุโรป กับ ขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 265/65 R17 และเวอร์ชั่นออสเตรเลียกับตลาดบางประเทศยังใช้ลายเดิมเพิ่มเติมด้วยสีเงา 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 มิติตัวรถยังเท่าเดิมตั้งแต่ความยาว 4,840 มม. ความกว้าง 1,885 มม. ความสูง 1,845 มม. ฐานล้อ 2,790 มม. และความสูงจากใต้ท้องรถ 220 มม.
ภายในมีการปรับให้ดูหรูขึ้นกับคอนโซลกลางพร้อมระบบความบันเทิง infotainment ขนาด 8 นิ้ว ใหม่แผงแอร์ออกแบบใหม่มาตรวัดดีไซน์ใหม่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นใหม่ยกชุดมากจากรุ่นพี่อย่าง Toyota Land Cruiser 200 พร้อมมาตรวัดเรืองแสง และจอแสดงข้อมูลสี MID 4.2 นิ้ว กับหัวเกียร์ใหม่ จับกระชับมือยิ่งขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ SUV 7 ที่นั่งที่เลือกโทนสีได้ทั้งสีเบจ Neutral Beige และสีเทาดำเข้ม
Toyota มอบขุมพลังหลากหลายตามต้องการของแต่ละประเทศลง Toyota Land Cruiser Prado เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-I 2.7 ลิตร 2TR-FE 163 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 246 นิวตันเมตรที่ 3,900 รอบ/นาที เลือกได้ทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและอัตโนมัติ Super ECT 6 สปีด สำหรับตลาดญี่ปุ่น จีน และบางประเทศ พร้อม เครื่องยนต์เบนซินใหญ่ Dual VVT-I 4.0 ลิตร V6 1GR-FE 282 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิด 381 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที สำหรับตลาดตะวันออกลาง และบางประเทศ ส่วนออสเตรเลียแว่วๆว่าเตรียมที่จะปลดประจำการ จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super ECT 6 สปีด และเครื่องยนต์เบนซิน D4-S 7GR-FKS 3.5 ลิตร V6 280 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 365 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super ECT 6 สปีด สำหรับตลาดจีนเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ทันสมัยสุด 2.8 ลิตร 1GD-FTV ให้กำลังสูง 177 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที ทั้งสองขนาดมาพร้อมระบบเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ Super ECT 6 สปีด เก๋าสุด!! กับเครื่องยนต์ดีเซลรุ่น 5L-E 3.0 ลิตร 106แรงม้าที่ 4,200 รอบ/นาที แรงบิด 197 นิวตันเมตรที่ 2,200 รอบ/นาที พร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีด เท่านั้น และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร รุ่น 1KD-FTV 172 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาทีแรงบิด 410 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที จับคู่กับระบบเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด
เต็มอิ่มด้วยพลังขับเคลื่อนเหนือชั่นด้วยระบบเพืองท้าย Torsen limited-slip differential และโหมดการขับขี่เลือกได้ถึง 5 โมหด (Normal, Eco, Comfort, Sport S, และ Sport S+) และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-Time พร้อม Multi-Terrain Select ที่สามารถเลือกโหมดลุยได้ถึง 5 โหมด (MUD & SAND,LOOSEROCK, MOGUL, ROCK & DIRTและ ROCK) ทำงานคู่กับระบบ Multi-Terrain Monitor หน้าจอแสดงสถานะการลุย ซึ่งจะแสดงผลความเอียงและลักษณะของตัวรถทั้งด้านหน้าตรง ด้านหลังตรง และทางด้านข้าง
ระบบความปลอดภัยจัดเต็มภายใต้ Toyota Safety Sense P ทั้ง Pre-Collision System with Pedestrian Detection, Adaptive Cruise Control, Lane Departure Alert with Steering Assist and Automatic High Beams, Blind Spot Monitor, Rear Cross Traffic Alert , ถุงลมนิรภัย 7 จุดรอบคัน และ กล้องรอบคัน Panoramic View Monitor
รถยนต์ ลุยขั้นเทพจาก โตโยต้า ประเดิมที่ญี่ปุ่นเป็นที่แรก เริ่มต้น 3,538,080 - 5,363,280 Yen หรือราว 1,063,000 – 1,612,000 บาท ส่วนออสเตรเลีย เตรียมเผยช่วงพฤศจิกายนนี้
ที่มา Caradvice, Newsroom.Toyota, Carscoops
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com