All New Toyota Camry ซีดานใหญ่รุ่นใหม่หมด เท่ หรูแบบฉบับผู้นำ

กว่า 30 ปี ที่ Toyota Camry รับบทเป็นซีดานขนาดใหญ่ ประสบความสำเร็จทั้งในด้านยอด ความไว้ใจจากสาวกทั่วโลกจนกลายเป็นรถยอดนิยมสูงสุดกวาดรางวัลมาหลายสำนัก

อีกครั้งที่ Toyota จะสานต่อความสำเร็จของยานยนต์ระดับผู้นำ ด้วย Toyota Camry เจนเนอเรชั่นที่ 8 ด้วยการพัฒนาจากแพลต์ฟอร์มใหม่ที่ชื่อ TNGA หรือ Toyota’s New Global Architecture (แพลตฟอร์มเดียวกันกับ Toyota Prius เจนใหม่ และ Toyota C-HR) พร้อมการออกแบในสไตล์ Keen Look นับตั้งแต่ กระจังหน้าทรงเดียวกับรถแข่ง Nacar พร้อมไฟหน้าทรงโฉบเฉี่ยว พร้อมการตกแต่งสองสไตล์ทั้งในแบบหรูในรุ่น Hybrid และ แนวสปอร์ต แบบรูปตัว X

และยังออกแบบตัวรถโดยรวมให้ปราดเปรียวกว่ารุ่นที่ผ่านมาพร้อมมิติตัวรถที่ใหญ่ขึ้น ตั้งแต่ความยาว 4,859 มม. ความกว้าง 1,834 มม. ความสูง 1,440 มม. และฐานล้อ 2,824 มม.

ภายในยังออกเบาะนั่งสำหรับด้านหน้าให้ต่ำเพียง 1 นิ้ว และด้านหลังเพียง 1.2 นิ้ว เพื่อรองรับสรีระและสะโพก ให้สบายขึ้น พร้อมจอสแดงเหนือแผงหน้าปัดขนาดใหญ่ head-up display10 นิ้ว  รวมถึงมาตรวัดเรืองแสง พร้อมจอ MID 7 นิ้วแผงคอนโซลหน้าใหม่หมดออกแบบให้ผู้ขับขี่ สามารถจับการใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆได้สะดวกและใกล้มือที่สุด โปรดปรานสำหรับนักฟังเพลงตัวยงด้วย ลำโพงคุณภาพ 9 ตัว พร้อม Sound Staging และ Clari-Fi  จาก JBL ผ่านเครื่องเล่นจอสัมผัส 8 นิ้ว

ขุมพลังเจ้าซีดานหรู นี้ มีให้เลือกถึง 3 ขนาด ตั้งแต่เครื่องยนต์เบนซิน Dynamic Force Engine รุ่นใหม่ VVT-iE ระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะควบคุมด้วยไฟฟ้า ขนาด 2.5 ลิตร ส่งผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift-8AT กับเครื่องยนต์เบนซิน Dynamic Force Engine Hybrid 2.5 ลิตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม sequential shift 6 สปีด และใหญ่สุด เครื่องยนต์เบนซิน 3.5 ลิตร V6 D-4S ส่งผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift-8AT

ระบบความปลอดภัยจัดเต็มภายใต้ Toyota Safety Sense P ทั้ง Pre-Collision System with Pedestrian Detection, Full-Speed Range Dynamic Radar Cruise Control, Lane Departure Alert with Steering Assist and Automatic High Beams, Blind Spot Monitor, Rear Cross Traffic Alert ,ถุงลมนิรภัย 10 จุด และ กล้องมองหลัง

All New Toyota Camry ผลิตที่โรงงานในรัฐเคนตั๊กกี้ อเมริกา พร้อมขายจริงในช่วงกลางปีนี้ มีให้เลือกตั้งแต่รุ่น LE, XLE, SE และ XSE ส่วนเมืองไทยอาจพบกันในปีสองปีข้างหน้า

 

ที่มา Paultan

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com