เจาะรถเด่น!! Toyota Alphard-Vellfire Facelift Luxury Van มาดใหม่.....คาดเข้าไทยเร็วๆนี้
- โดย : Autodeft
- 5 ก.พ. 61 00:00
- 18,627 อ่าน
หลังจากเปิดตัวที่ญี่ปุ่นได้ไม่นานสำหรับ Toyota Alphard-Vellfire Facelift Luxury Van ที่ครองความนิยมมายาวนาน สร้างความประทับใจให้กับเหล่าเศรษฐี เซเลป ดารา ที่มีชื่อเสียง
สำหรับเมืองไทยมีแนวโน้มที่ โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จะนำเข้า Luxury Van 2 รุ่น ทั้ง Toyota Alphard กับ Toyota Vellfire มาจำหน่าย โดยเพชรน้ำเอกของค่าย บรรจงสร้างให้หรู ขึ้น สง่างามกว่าเก่า ด้วยการปรับหน้าตา ปรับรายละเอียดบางจุดให้เด่นชัดยิ่งขึ้น เริ่มจากภายนอกของรุ่น Alphard เน้นความสปอร์ตมากขึ้นแต่ยังคงคอนเซ็บต์ความหรูเช่นเดิม ตั้งแต่ กระจังหน้าดีไซน์โครเมี่ยมใหม่ดูทะมัดทะแมงขึ้นพร้อมไฟหน้า LED projectors ใหม่ สอดรับกับกันชนหน้าดีไซน์ใหม่และยังออกแบบตำแหน่งไฟตัดหมอกให้ต่ำลง เพื่อความลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบ ด้านท้ายปรับในเรื่องกรอบป้ายทะเบียนโครเมี่ยมดีไซน์ใหม่ที่ยาวขึ้นรับกับไฟท้าย LED ใหม่
ส่วน Toyota Vellfire ปรับใหม่ ฉีกแนวเน้นสปอร์ตด้วย กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟหน้า LED สองชั้นใหม่ กันชนหน้าใหม่และด้านท้ายปรับอารมณ์ใหม่ด้วยกรอบป้ายทะเบียนดีไซน์ใหม่ยาวขึ้นรับกับไฟท้าย LED เพิ่มความเร้าใจมากขึ้น แต่ทั้งสองรุ่นได้ล้ออัลลอยลายใหม่ทั้งขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 215/65 R16 ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/60 R17 และขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/50 R18
ภายในทั้งสองรุ่นยังคงหรูหราด้วยชุดเบาะนั่งแบบ 7 ที่นั่ง โดยเฉพาะเบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ 2 ที่นั่ง ปรับไฟฟ้า ด้วยดีไซน์เบาะนั่งแบบ First Class เสมือนนั่งอยู่บนสายการบินชั้นนำ แผงควบคุมเบาะนั่งแถว 2 พร้อมโต๊ะกลางและที่วางแก้วและที่รองขา หรือแบบ 3 ที่นั่งให้เลือกตามความแตกต่างของแต่ละรุ่นพร้อมวัสดุหุ้มเบาะทั้งแบบผ้า และแบบหนังคุณภาพสูงทั้งสีเบจ และ หนัง Nappa สีขาว แผงคอนโซลหน้ายังคงเดิมเพิ่มเติมด้วยมาตรวัดเรืองแสงใหม่ และ วัสุดลายไม้ตกแต่งบริเวณคอนโซหน้า คอนโซลเกียร์ และแผงประตูใหม่ เป็นต้น
รถตู้หรูทั้งสองรุ่นจาก Toyota ยังใช้ขุมพลังเดียวกัน แต่สำหรับสเปคไทยอาจได้เครื่องยนต์ใหม่ เบนซิน V6 ภายใต้รหัส 2GR-FKS Direct Injection ให้กำลังสูงสุด 301 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 361 นิวตันเมตรที่ 4,600 – 4,700 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ลูกใหม่แบบ Direct Shift (แทนเครื่องเดิมเบนซิน V6 Dual VVT-I 3.5 ลิตร 2GR-FE พัฒนาใหม่ ให้กำลังสูงสุด 280 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 344 นิวตันเมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที กับ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Super ECT แบบ Sequential Shift )
ส่วนอีก 2 ขุมพลังความแรงยังคงเดิมเริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-I 2.5 ลิตร 2AR-FE แรงม้าสูงสุด 182 แรงม้า ที่ ที่ 6,000 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตร ที่ 4,100 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนล้อหน้าและระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีดพร้อมระบบ Sequential Shift และเครื่องยนต์เบนซิน VVT-I Hybrid ขนาด 2.5 ลิตร 2AR-FXE กำลังสูงสุด 152 แรงม้าที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตันเมตร ที่ 4,400 – 4,800 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟฟ้า 2JM 143 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตรและมอเตอร์ไฟฟ้า 2FM 68 แรงม้า แรงบิด 139 นิวตันเมตร และเมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้า ผ่านระบบ เกียร์อัตโนมัติ ECVTและขับเคลื่อนด้วยระบบขับสี่แบบ E-Four เบื้องต้น โตโยต้า มีแนวโน้มที่จะนำเข้า Luxury Van รุ่นปรับโฉมมาขายในไทยแต่จะเป็นช่วงเวลาไหนนั้นจะมานำเสนอในครั้งต่อไป
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com