เจาะรถเด่น!! Porsche Cayenne SUV พรีเมี่ยมเจนใหม่ บุกไทย 13 กันยายนนี้

หลังจากเปิดตัวให้สาวกยานยนต์หรูได้สัมผัสก่อนใคร สำหรับ Porsche Cayenne อเนกประสงค์พี่ใหญ่จากค่ายรถเมืองสตุ๊ตการ์ท ที่ไปได้สวยในด้านยอดขายอยู่ในหลายประเทศ

ล่าสุด Porsche Thailand โดย AAS Auto Service ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวที่สุดรถยนต์ SUV เรือธง ให้เศรษฐีชาวไทยได้จับจองกันในร่างเจเนอเรชั่น 3

Porsche Cayenne ออกแบบใหม่หมด แต่ยังมีกลิ่นไอความเป็น Cayenne จากสองเจนที่ผ่านมา ด้านหน้ายังเอกลักษณ์เดิม ตั้งแต่ โคมไฟหน้า LED แบบ Three-Stage Lighting Concept สามารถเลือกออพชั่นเสริมเป็นระบบ Porsche Dynamic Light System (PDLS) เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่หลากหลาย อาทิ cornering light และ mo-torway light หรือเลือกใช้ที่สุดของนวัตกรรมเทคโนโลยีส่องสว่างด้วยโคมไฟคู่หน้าแบบ LED พร้อมระบบ PDLS Plus กระจังหน้าพร้อมขยายขนาดช่องดักอากาศด้านหน้า เสริมความดุดันน่าเกรงขาม แถมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED Daytime พร้อม ไฟส่องสว่างมุมกันชนที่วางตัวตามแนวขนานให้ความรู้สึกถึงรูปทรงตัวถังที่กว้างและแข็งแกร่งราวกับมัดกล้ามของนักกีฬา

ด้านท้ายแตกต่างติดตั้งไฟท้ายออกแบบเป็นแนวยาวขึ้นแถมต่อเนื่องพร้อมตราสัญลักษณ์ตัวอักษร Porsche สามมิติขนาดใหญ่บริเวณไฟท้ายเชื่อมต่อจรดกันทั้งสองฝั่งด้วยแผงทับทิมสามมิติ LEDs เรียวยาว ตลอดแนวตัวถังด้านหลัง และล้ออัลลอยขนาดใหญ่เลือกได้ตั้งแต่ ขนาด 22 นิ้ว

ตัวรถสร้างขึ้นจากพื้นฐาน MLBevo platform มีน้ำหนักที่ลดลงจากเดิม 55 กก. เป็น 1,985 กก. เป็นเพราะใช้วัสดุอลูมีเนียม มิติตัวรถที่ใหญ่กว่าเดิมตั้งแต่ความยาว 4,918 มม. ความกว้าง 1,983 มม. ความสูง 1,696 มม. พร้อมฐานล้อ 2,895 มม. เมื่อเทียบกับเจนที่แล้วจะพบว่า เจนสามใหญ่ขึ้นพอสมควร โดยยาวขึ้น 63 มม. กว้างขึ้น 44 มม. ความสูงลดลง 9 มม.

ภายในเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์ ยกมรดกมาจากทั้ง Cayenne เจนสอง Macan และ Panamera จนลงตัวทั้งมาตรวัด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสปอร์ต 3 ก้าน ใหญ่สมใจขึ้นด้วยจอสัมผัสขนาดใหญ่พร้อมระบบ infotainment system 12.3 นิ้ว คอนโซลกลางรวมฟังก์ชั่นการทำงานทุกอย่างในที่เดียว พร้อมวัสดุหนังแท้คุณภาพและลายไม้ เลือกได้ตามใจสั่ง เอาใจคนชอบขนของด้วยพื้นที่สัมภาระท้าย 770 ลิตร และถ้าพับเบาะลงจะมีพื้นมากขึ้น 1,780 ลิตร และหน้าจอแสดงผลแบบใหม่ head-up display ทำงานด้วยการฉายภาพข้อมูลเกี่ยวข้องกับระบบต่างๆ ของตัวรถไปยังระดับสายตาของผู้ขับขี่โดยตรง

สำหรับเมืองไทยจำหน่ายเพียงรุ่นเดียวคือCayenne E-Hybrid ด้วยพลังเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ Plug-In Hybrid V6 3.0 ลิตร 340 แรงม้า เสริมพลังด้วยระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า 136 แรงม้า ให้พละกำลังสูงสุดรวมกว่า 462 แรงม้าที่ 5,250 – 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดถึง 700 นิวตันเมตรที่ 1,000 – 3,750 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 8 จังหวะ Tiptronic S

สามารถเร่งออกตัวจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 5.0 วินาที เร้าใจยิ่งกว่าด้วยความเร็วสูงสุดถึง 253 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสามารถเดินทางได้ 44กิโลเมตร และทำความเร็วได้ถึง 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ 20.9 – 20.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร หนึบแน่นด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive พร้อมสมรรถนะการลากจูงสูงสุดกว่า 3.5 ตัน ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านอุปกรณ์ map-controlled multiplate clutch กระจายแรงบิดไปยังล้อขับเคลื่อนอย่างเหมาะสม การทำงานของระบบดังกล่าวช่วยให้ผู้ขับขี่ สามารถบังคับควบคุมรถยนต์ได้ทุกรูปแบบการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่สไตล์สปอร์ตความเร็วสูงที่ต้องการเสถียรภาพ  เบื้องต้นทาง Porsche Thailand โดย AAS Auto Service เปิดตัวอย่างเป็นทางการ 13 กันยายนนี้

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com