เจาะรถเด่น!! Nissan Terra อเนกประสงค์รุ่นล่า พร้อมเผยไทยภายในปีนี้

หลังจากที่ฟิลิปปินส์เป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซี่ยน เผยยอดรถอเนกประสงค์รุ่นล่าในนาม Nissan Terra อย่างเป็นทางการ พร้อมส่งมอบตั้งแต่ สิงหาคม เป็นต้นไป ทำให้สาวกชาวไทยต่างตั้งคำถามมากมายว่าแล้วจะมีโอกาสเปิดตัวด้วยหรือไม่

ล่าสุด นิสสัน ประกาศอย่างชัดเจนกลางงานเปิดตัวที่ฟิลิปปินส์ ว่า ประเทศไทย (โรงงานบาง-ตราด กม.22) จะเป็นฐานการผลิตและการส่งออก Nissan Terra ไปยังประเทศในกลุ่มภูมิภาคอาเซี่ยน ทั้ง บรูไน กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม อินโดนีเซีย และไทย โดยเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินแผนงานระยะกลางของนิสสัน หรือ Nissan M.O.V.E. 2022 ในร่างรถอเนกประสงค์แบบตัวถังบนแชสซีส์ 7 ที่นั่ง เด่นด้วยความแข็งแกร่งรองรับทุกภารกิจการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างมั่นใจ ขณะเดียวกันยัง สามารถปลดปล่อยความจำเจ และออกผจญภัยได้อย่างเต็มที่

ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้ากระจังหน้ารูปตัว V ขนาดใหญ่ เอกลักษณ์ของ Nissan พร้อมไฟหน้า LED Projector แบบ "boomerang" มาพร้อมไฟ LED Daytime ในโคมเดียวกันสอดรับกับกันชนหน้าใหม่ ด้านข้าง กลมกลืน พร้อมซุมล้อขนาดใหญ่ ล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 255/60 R18 กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ด้านท้ายสวยด้วยดีไซน์ไฟท้าย แบบ "boomerang" พร้อมคิ้วรกรอบป้ายทะเบียนแบบโครเมี่ยมพร้อมโลโก้ Terraในตัวไฟเบรก LED ด้วยตัวรถที่คล่องตัวใหญ่โต ตั้งแต่ ความยาว 4,885 มม. ความกว้าง 1,865ม. ความสูง 1,835 มม. ฐานล้อ 2,850 มม. และระยะต่ำสุดจากพื้น 225 มม.

ภายในหรูด้วยความสบายด้วยเบาะนั่งหุ้มกึ่งหนังแท้ 7 ที่นั่ง สามารถปรับพับได้เพิ่มเนื้อที่ในการบรรทุกของ เย็นสบายด้วยเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมแอร์บนหลังคา คอนโซลหน้าหยิบยืมจากกระบะ Nissan Navara มาทั้งดุ้น คับคั่งด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลแบบ 3 มิติ

สำหรับตลาดเมืองไทยจะใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน 2.5 ลิตร รุ่น YD25DDTTi แรงสุด190 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 450 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที จับคู่กับระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด หรืออาจเซอร์ไพรส์ ส่งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ รหัสYS23DDTT 190 แรงม้าที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที มาประจำการก็เป็นได้ โดยจับคู่กับระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด

ระบบขับเคลื่อนเลือกได้ทั้งรุ่นขับสองยกสูงและขับสี่ 4WD พร้อมระบบ 4WD-DIFF หรือ ดิฟเฟอเรนเชียล-ล็อก 4 ล้อ แข็งแกร่งด้วยแชสซีส์แบบขั้นบันได เหมาะกับการขับขี่บนทางแบบออฟโรด ระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบ five-link coil spring rear suspension system และเพลาหลังที่มั่นคงแข็งแรง สร้างความมั่นใจว่าความสะดวกสบายและความนุ่มนวลที่มาพร้อมกับความทนทานและความแข็งแกร่ง

พ่วงด้วยระบบความปลอดภัยเต็มคัน ทั้ง ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning) ระบบเตือนจุดบอดกับจุดอับสายตา (Blind Spot Warning) และกล้องอัจฉริยะมองรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor) พร้อมระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหว (Moving Object Detection) ถุงลมนิรภัย 7จุดรอบคัน ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ครั้งแรกกับ กระจกมองหลังอัจฉริยะ (Smart Rear View Mirror) ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นทัศนวิสัยด้านหลัง โดยไม่มีการบดบังในห้องโดยสาร จากกล้องที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังของรถ แข็งแกร่ง Nissan พร้อมเผยตัวจริงภายในปีนี้ โดยสเปคและรายละเอียดสำหรับตลาดเมืองไทย จะเป็นอย่างไรจะมานำเสนอในครั้งต่อไป

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com