ตัวจริงพันธุ์ดุ!! Mitsubishi Triton Athlete กระบะสปอร์ตเข้มค่ายทรีไดมอนด์

หลังจากได้ชมทีเซอร์สมาชิกใหม่ของตระกูลกระบะแกร่ง Mitsubishi Triton จนอยากจะเป็นเจ้าของที่สุดกระบะสายพันธุ์เข้มตัวจริง

ล่าสุดทางต้นสังกัดส่งข้อมูลอย่างเป็นทางการผ่านทางเว็บไซต์ www.mitsubishi-motors.co.th โดย Mitsubishi Triton Athlete จำหน่ายเฉพาะรุ่น Double Cab 4 ประตูทั้งรุ่นยกสูง Plus และ ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD โดยอัพเกรดความหล่อมาจากรุ่น Double Cab Limited Edition ตั้งแต่กระจังหน้าสีดำลาย Honeycomb ขอบกันหน้าด้านบนสีดำ โป่งซุ้มล้อสีดำพร้อมล้ออัลลอยสีดำ ดีไซน์ลงตัวขนาด 17 นิ้วพร้อม ขนาด 245/65 R17 แต่ครั้งนี้เพิ่มสีสันด้วย ชุดแต่งกันชนหน้า สปอร์ตบาร์ สติ๊กเตอร์ลายพิเศษรอบคันและบริเวณฐานไฟหน้า กระจกมองข้าง ที่เปิดประตูรถ เป็นสีดำ สัญลักษณ์ Athlete บ่งบอกความเป็นกระบะพันธุ์เข้มที่หาตัวจับยากและไฟหน้า Projector แบบ HID และเลนส์ไฟ LED Daylight บันไดข้างสีดำขนาดยาวกว่าเดิม

ภายใน มิตซูบิชิ สาดความเข้มเต็มพิกัดด้วยโทนสีดำ – ส้ม พร้อมออพชั่นครบครันทั้ง เครื่องเล่น DVD แบบจอสัมผัส เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและ Apple Car Play พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงกับ ปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 4 ก้าน พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ปรับไฟฟ้าด้านคนขับ เย็นสบายทั่วคันด้วยเครื่องปรับอากาศแบบ Dual Zone กุญแจอัจฉริยะ KOS พร้อมปุ่ม Push Start ติดตั้งที่นั่งตอนหลังพร้อมพนักพิงศีรษะ 3 ตำแหน่ง (Rear Seat Headrest X3) อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารด้านหลังสะดวกสบายในการโดยสารมากขึ้น พร้อม พร้อมมาตรวัดใหม่เรืองแสง และระบบล็อคประตูอัตโนมัติ

ขุมพลัง Mitsubishi Triton รุ่นแต่งเท่ ยังเหนียวแน่นกับ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4N15 Mivec Clean Diesel 2.4 ลิตร 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที พร้อม เกียร์ธรรมดา 6 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดพร้อมสปอร์ตโหมด ทั้งขับเคลื่อนสองล้อยกสูง Plus และขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD II แบบเดียวกับรุ่น Pajero Sport และระบบเฟืองท้ายแบบ Diff-lock เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

พบกับกระบะแต่งรุ่นล่า จาก Mitsubishi จำหน่ายเพียงสามรุ่นย่อยทั้งรุ่นยกสูงเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ และขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์อัตโนมัติ พร้อมราคาจำหน่ายที่งาน Motor Expo 2017 ตั้งแต่ 30 พฤศจิกายน เป็นต้นไป

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 
​