พวงมาลัยขวาคันแรกของโลก!! Maxus T60 กระบะแกร่งแดนมังกร…บุกเมืองจิงโจ้
- โดย : Autodeft
- 25 ก.ย. 60 00:00
- 11,768 อ่าน
หลังทำตลาดมาครบ 1 ปี จนมีเสียงตอบรับที่ดีจากแดนบ้านเกิด ทำให้ Maxus (LDV) ค่ายรถยนต์เครือญาติ MG พร้อมแล้วที่จะส่งกระบะเข้ม Maxus T60 (LDV T60) บุกตลาดทั่วโลก
โดย SAIC Motor เลือกประเทศออสเตรเลียเปิดตัวเป็นประเทศที่สองและเป็นที่แรกของโลกที่เปิดตัวเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวา Maxus T60 (LDV T60) หน้าตาคมเข้ม บึกบึน เหมือนเดิม ตั้งแต่กระจังหน้าแนวตั้ง พร้อมไฟหน้า LED กับไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED Daytime ด้านข้างแกร่งฉกาจด้วยเส้นสายบึกบึน ล้ออัลลอยลวดลายฉกาจเข้ม 6 ก้าน พร้อมยางจาก Dunlop ขนาด 245/65R17 บั้นท้ายแกร่งตามเทรนด์กระบะสมัยนี้ ด้วยกันชนท้ายทรงโหด และไฟท้ายดีไซน์ทันสมัย โดยมา 4 ประตู Double Cab ใหญ่โตเทียบเท่าเจ้าดังๆ ตั้งแต่ความยาว 5,680 มม. ความกว้าง 1,900 มม. และ ความสูง 1,809 มม. มิติกระบะ มีความยาว 1,800 มม. ความกว้าง 1,510 มม. และความสูง 530 มม.
ภายในเมื่อเข้ามาแล้ว แม็กซัส ใจปล้าให้ออพชั่นชนิดอลังการงานสร้าง ไม่ว่าจะเป็น แผงคอนโซลหน้าตกแต่งโทนสีเงิน silver decoration ผสมกับสีดำ พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน ทันสมัยด้วยเครื่องเล่นวิทยุ DVD แบบจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว รองรับ ระบบนำทาง Bluetooth และระบบ Car-Link human-computer interactive สบายด้วยเบาะนั่งกึงหนังแท้สีดำเดินด้ายแดง ปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง และชาร์จมือถือ ใช้งานโน็ตบุ๊คได้อย่างสบายด้วยช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า 12 V และ 220 V กับช่องเสียบ USB 2 จุด
ขุมพลังแน่นอนแล้วว่าต้องเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน VGT แถมเป็นขนาดใหญ่เพื่อต่อกรกับเจ้าดัง ขนาด 2.8 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที พร้อมเทคโนโลยีคอมมมอนเรลเจน สามล่าสุด จาก Bosch มีให้เลือกทั้งระบบเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบขับสี่ Part-Time 4WD ปรับเปลี่ยนด้วยระบบไฟฟ้า จาก BorgWarner และระบบล็อคเฟืองท้ายไฟฟ้า Electronic rear differential lock
ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด ระบบควบคุมการทรงตัว ESP กล้องมองรถรอบคันแบบ 360 องศา กล้องมองหลังเพื่อกาถอยจอดที่ปลอดภัย ไฟหน้าปรับตามการเลี้ยวของพวงมาลัย หรือ AFS ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS เหนือชั้นด้วยระบบเตือนมุมอับสายตา Blind-spot monitoring
Maxus (LDV) พร้อมเปิดราคาจำหน่าย โดยมี 2 รุ่นย่อย ตั้งแต่รุ่น PRO เริ่มต้น $28,990 - $30,990 หรือราว 764,000 817,000 - บาท และรุ่นท็อป Luxe เริ่มต้น $32,990 - $34,990 หรือราว 870,000 – 922,000 บาท (ไม่รวมภาษีของไทย) ด้านเมืองไทยยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ส่วนเตรียมที่จะขึ้นไลน์ประกอบและเปิดตัวในในช่วงไหนนั้นเราจะนำเสนอในครั้งต่อไป
ที่มา Caradvice
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com