พิชิต 1,219 โค้ง สู่แผ่นดินดอยลอยฟ้าที่อุ้มผาง กับ ISUZU V-Cross Max 4x4

  • โดย : Autodeft
  • 22 ม.ค. 62 00:00
  • 9,168 อ่าน

อีซูซุเชิญสื่อมวลชนร่วมสัมผัสสมรรถนะของ “ISUZU V-Cross Max 4x4” ขีดสุดแห่งสปอร์ตออฟโรด ที่พร้อมฝ่าฟันในเส้นทางสุดโหดด้วยภารกิจสุดท้าทายกับการพิชิต 1,219 โค้ง สู่แผ่นดินดอยลอยฟ้าที่อุ้มผาง และน้ำตกทีลอซู น้ำตกที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุดในประเทศไทย เปลี่ยนทุกเส้นทางที่มีอุปสรรคให้เป็นความเร้าใจถึงขีดสุด ด้วยสุดยอดแห่งสมรรถนะความแกร่งและความแรงตอบสนองทุกเส้นทางของการขับขี่

ISUZU D-MAX V-Cross MAX

การเดินทางในครั้งนี้ อีซูซุพาคณะสื่อมวลชนบินจากกรุงเทพฯ สู่สนามบินแม่สอด จังหวัดตาก โดยเริ่มสตาร์ทกันที่ “ร้านกระเพาะปลาริมเมย แอนด์ จิวเวอรี่” ลิ้มรสกระเพาะปลา และอาหารรสเด็ด ก่อนเดินทางไปรับรถที่โชว์รูมอีซูซุตากฮกอันตึ๊ง สาขาแม่สอด เพื่อสัมผัสสุดยอดแห่งประสบการณ์ลุยกับ “ISUZU V-Cross Max 4x4” สปอร์ตออฟโรดพันธุ์แท้ ที่มาพร้อมกับความแกร่ง ดุดัน ทรงพลัง สปอร์ตอย่างมีระดับ มุ่งหน้าสู่อำเภออุ้มผาง ซึ่งเป็นอำเภอชายแดนของจังหวัดตากที่มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม และเป็นจุดหมายปลายทางในครั้งนี้ รวมระยะทางทั้งสิ้น 164 กิโลเมตร กับ 1,219 โค้ง หลังจากผ่านเส้นทางอันคดเคี้ยวได้ครึ่งทาง

เราได้แวะพักที่ จุดแวะพักอุ้มเปี้ยม เพื่อดื่มชากาแฟ พร้อมลิ้มรสซาลาเปาและขนมจีบร้อน ๆ คลายหนาว ก่อนเดินทางต่อ ในที่สุดคณะสื่อมวลชนจึงเดินทางถึงอำเภออุ้มผาง โดยใช้ระยะเวลาทั้งสิ้นเกือบ 4 ชั่วโมง โดยแวะพักรับประทานอาหารเย็นกันที่ “ครัวป้าณี” ร้านอาหารเก่าแก่ของที่นี่ ก่อนเดินทางเข้าสู่ที่พัก ณ “ทีลอซู ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท” ในบรรยากาศสงบ อิงแอบกับธรรมชาติ อาหารอร่อย เรียกได้ว่าเพอร์เฟคเลยทีเดียว

ISUZU D-MAX V-Cross MAX

ISUZU D-MAX V-Cross MAX

ISUZU D-MAX V-Cross MAX

ISUZU D-MAX V-Cross MAX

ISUZU D-MAX V-Cross MAX

ในวันที่ 2 ของการเดินทาง คณะสื่อมวลชนตื่นแต่เช้าตรู่ พร้อมออกเดินทางสู่ “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง” เพื่อเข้าชม “น้ำตกทีลอซู” ไฮไลท์ที่ทุกคนต้องมาเยือนเมื่อมาเที่ยวอุ้มผาง สำหรับเส้นทางการเดินทางสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ นั้น ไม่ใช่เส้นทางที่ง่าย ๆ เลย เนื่องจากตลอดระยะทาง 26.5 กิโลเมตร เป็นทางดินขรุขระ สลับถนนปูน และลาดยาง มีแอ่งน้ำขัง และคดเคี้ยว แต่ด้วยสมรรถนะของ “ISUZU V-Cross Max 4x4” ทำให้เราฝ่าฟันทุกอุปสรรคในการเดินทางได้อย่างง่ายดาย เราใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเดินทางถึงที่ทำการฯ การเดินเท้าเข้าไปน้ำตกทีลอซูนั้นจะเป็นทางคอนกรีตทำเป็นขั้นบันไดไปเรื่อย ๆ ตลอดทาง ความยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในที่สุดเราก็ได้พบกับความยิ่งใหญ่อลังการของน้ำตกทีลอซูที่สวยงามมากจนได้รับการยกย่องว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของประเทศไทย มีความเป็นธรรมชาติที่สวยงาม และเป็นที่ตื่นตาตื่นใจของคณะสื่อมวลชนป็นอย่างมาก ในส่วนของคำว่า “ทีลอซู” นั้น เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า “น้ำตกดำ” มีลักษณะเป็นน้ำตกภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร เกิดจากลำห้วยกล้อทอ ที่ไหลผ่านหน้าผาสูงชันลดหลั่นเป็นชั้นๆ เกิดเสียงดังกึกก้องท่ามกลางป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ มีน้ำไหลแรงตลอดปี และยังเป็นเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำแม่กลองอีกด้วย ความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 500 เมตร มีความสูงประมาณ 300 เมตร หลังจากชื่นชมความงดงามของน้ำตกทีลอซูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ISUZU D-MAX V-Cross MAX

คณะสื่อมวลชนจึงได้เดินทางต่อไปยัง “ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดหนองหลวง” เพื่อบริจาคเงิน 10,000 บาท เป็นทุนการศึกษาให้กับเด็ก ๆ และชมความงามของโบสถ์ไม้สักทอง พร้อมไหว้พระขอพรที่วัดหนองหลวง ก่อนเดินทางกลับที่พัก เพื่อเตรียมตัวล่องเรือยาง เมื่อคณะสื่อมวลชนเปลี่ยนชุดเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว

ISUZU D-MAX V-Cross MAX

ISUZU D-MAX V-Cross MAX

จึงออกเดินทางจากที่พัก เพื่อชมความงามของลำน้ำแม่กลอง พร้อมสนุกสนานผจญภัยไปกับสายน้ำ และธรรมชาติริมสองฟากฝั่งมีแต่ความเขียวขจีของพันธุ์ไม้นานาพรรณ เมื่อล่องแก่งมาสักพัก เราได้พบกับความสวยงามของน้ำตก “ทีลอจ่อ” หรือน้ำตกสายฝน ความโดดเด่นของน้ำตกทีลอจ่อ คือ ภาพความสวยงามของสายน้ำที่ไหลจากหน้าผาสูงชัน เมื่อหล่นลงมากระทบเข้ากับหิน ธารน้ำดังกล่าวก็แตกกระจายเป็นฝอย ดูคล้ายกับสายฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้า และบางครั้งก็เกิดเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างรุ้งกินน้ำให้เราได้เห็นกัน แนะนำว่าถ้าอยากเห็นปรากฏการณ์สายรุ้งจะต้องไปแต่เช้าจะมีโอกาสได้เห็นมากที่สุด

ISUZU D-MAX V-Cross MAX

ISUZU D-MAX V-Cross MAX

ISUZU D-MAX V-Cross MAX

ปิดท้ายวันสุดท้ายของการเดินทางโดยการขับรถ “ISUZU V-Cross Max 4x4” คันเดิมผ่านเส้นทางเดิม เพื่อพิชิต 1,219 โค้ง อีกครั้ง เพื่อมุ่งหน้าสู่อำเภอแม่สอด โดยแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ “ร้านช่อม่วง” เป็นการปิดท้ายความประทับใจกับ “ISUZU V-Cross Max 4x4” ขีดสุดแห่งสปอร์ตออฟโรด ให้ก้าวข้ามทุกความท้าทาย ด้วยยอดแห่งสมรรถนะ ความแกร่ง ดุดัน ทรงพลัง ที่พาไปเยือนแผ่นดินดอยลอยฟ้าที่อุ้มผาง ก่อนขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ

สปอร์ตออฟโรด ISUZU V-Cross Max 4x4 มาพร้อมชุดแต่ง MAX 4x4 ดีไซน์ใหม่ เปลี่ยนทุกอุปสรรคให้เป็นความเร้าใจถึงขีดสุด ด้วยใหม่! Bumper Garnish โทนเทาดำ ตัดรับกระจังหน้า พร้อม Engine Hood Garnish ให้มิติแห่งพลัง พร้อม ใหม่! Front Bumper Guard ทูโทนดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยแบบทูโทน ขนาด 18 นิ้ว Matt Black เท่สะดุดตา ไฟหน้าแบบ Bi-LED เทคโนโลยีสุดล้ำ ให้พื้นที่ ความสว่างมากขึ้นแต่ใช้พลังงานน้อยลง และ Multifunctional Daylight แบบ Built-in ดีไซน์ใหม่ เป็นทั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวัน และไฟหรี่ในเวลากลางคืน ใหม่! กันชนท้ายสีเทาดำ พร้อมไฟท้ายแบบ LED รมดำ

ISUZU D-MAX V-Cross MAX

ISUZU D-MAX V-Cross MAX

ISUZU D-MAX V-Cross MAX

ภายในหรูหรายิ่งขึ้น ยกระดับความสะดวกสบายขั้นสุด ด้วย ใหม่! เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ สไตล์ทูโทน น้ำตาล-ดำ เดินด้ายสีส้มรอบตัวเบาะ พร้อมปักสัญลักษณ์ V-Cross เท่ หรู ในทุกรายละเอียด หน้าจอใหม่! ขนาดใหญ่ 8 นิ้ว ใช้งานสะดวกขึ้น พร้อมระบบสัมผัสตอบสนองการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง มั่นใจด้วยสุดยอดแห่งสมรรถนะความแกร่ง และความแรงของเครื่องยนต์ ISUZU 3.0 Ddi Blue Power ที่ให้กำลังแรงม้าและแรงบิดสูง พร้อมลุยทุกอุปสรรค เมื่อเดินทางถึงแม่สอด สายฝนได้ตกกระหน่ำต้อนรับคณะสื่อมวลชน เพื่อให้ได้พิสูจน์สมรรถนะของการขับขี่ มั่นใจตลอดการเดินทางด้วยระบบปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้า Terrain Command เรียกพลังออฟโรด พร้อมช่วงล่างแบบ i-Grip ออกแบบพิเศษ ให้ระยะฐานล้อ และช่วงล้อกว้างสมดุลกับขนาดตัวรถ เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวและการเกาะถนนที่ดียิ่งขึ้น

ISUZU D-MAX V-Cross MAX

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

 

5 เรื่องน่าสนใจ