ขับ New ISUZU D-MAX Blue Power พาเที่ยวรับลมหนาวเส้นทางกรุงเทพฯ-ตาก-สุโขทัย
- โดย : Autodeft
- 26 ธ.ค. 60 00:00
- 67,233 อ่าน
นับตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน เป็นต้นมาที่ New ISUZU D-MAX Blue Power ทั้งเครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 Ddi Blue Power เปิดตัวต่อเหล่าประชาคมอีซูซุกลายเป็นรถปิกอัพที่ประสบความสำเร็จกับยอดจองมหัศจรรย์ 1,000 คัน ในระยะเวลา 8 ชั่วโมง จากงาน 60 ปีทองอีซูซุ ที่ผ่านมา
และเพื่อเป็นการพิสูจน์ความร้อนแรงของกระแส Blue Power ทางตรีเพชรอีซูซุเซลส์ เชิญสื่อมวลชน 30 กว่าชีวิต ร่วมสัมผัสขีดสุดแห่งนวัตกรรมเปลี่ยนโลก แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวสู่ดินแดนภาคเหนือที่แสนสงบ สวยงาม จนไม่ควรแค่ขับเลยผ่าน ต้อนรับลมหนาว 17 องศา บนเส้นทาง กรุงเทพฯ-ตาก-สุโขทัย ดื่มด่ำมนต์เสน่ห์เมืองเล็กรวม 2 วัน 1 คืน เส้นทางรวมระยะทางกว่า 450 กิโลเมตร
ในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถยนต์ New ISUZU D-MAX Blue Power Press Trip ทั้งหมด 13 คัน ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Hi-Lander และ V-Cross MAX 4WD โดยทริปนี้ อีซูซุ เริ่มเซตศูนย์ออกสตาร์ทการเดินทางที่สำนักงานใหญ่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ถนนวิภาวดีรังสิต เข้าสู่ถนนสายเอเชียหมายเลข 1 มุ่งสู่ อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท โดยจุดแวะพักที่แรกนั้นอยู่ที่ร้าน “ครัวท่าน้ำอ้อย สาขา 2” ร้านอาหารชื่อดัง เพื่อเติมพลังเต็มอิ่มหลังขับมายาวๆจากกรุงเทพฯ ด้วยรสชาติอาหารที่อร่อยใช้ได้ หลากหลายเมนู
หลังอิ่มกับอาหารที่ครัวท่าน้ำอ้อยฯ จึงเดินทางต่อไปกับร้านเบเกอรี่ และกาแฟใน จังหวัดตากกับร้าน “เถียงนา Coffee and Bakery Farm” ที่ร่มรื่นด้วยพรรณไม้และแปลงผักขนาดย่อม เสพบรรยากาศตามชื่อร้านที่แปลว่าเพิงที่พักริมคันนา สมาชิกต่างแยกย้ายไปหามุมนั่งจิบชา กาแฟ และชิมเบเกอรี่รสชาติละมุนกันตามอัธยาศัย
ก่อนที่จะไปสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน และ สะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ในยามเย็นอาทิตย์อัสดง เราเข้าพักที่โรงแรมไวท์เฮ้าส์ (White House) โรงแรมใหม่ที่โดดเด่นด้วยอาคารสีขาว 3 ชั้น ตั้งตระหง่านสวยหรูไม่ไกลจากตัวเมืองพร้อม ห้องพักสวยงาม เรียบง่าย สะดวกสบายด้วยโทนสีขาวสะอาดตา มีสระว่ายน้ำลกลางแจ้ง พร้อมลานระเบียงอาบแดดสุดกว้างขวาง ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ สไตล์โมเดิร์น
เมื่อมาเยือนเมืองตากไม่ควรพลาดที่จะไปสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน โดยใช้ระยะเวลาเพียง 7 นาที จากโรงแรมที่พัก โดยอยู่ตรงข้ามวัดโบสถ์มณีศรีบุญเรือง ถนนจรดวิถีถ่อง โดยศาลเดิมนั้นอยู่ที่วัดดอยเขาแก้วฝั่งตรงข้ามตัวเมืองตาก ต่อมาในปี พ.ศ.2490 ได้มีการสร้างศาลขึ้นใหม่ และได้สร้างตัวศาลเป็นศาลาแบบจตุรมุขพร้อมกับหล่อพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชขนาดใหญ่ กว่าพระองค์จริงเล็กน้อยในพระอิริยาบถกำลังประทับอยู่บนราชอาสน์ มีพระแสงดาบพาดอยู่ที่พระเพลา และที่ฐานพระบรมรูปมีคำจารึกไว้ว่า “พระเจ้าตากสินกรุงธนบุรี ทรงพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ.2277 สวรรคต พ.ศ. 2325 รวม 48 พรรษา” ขณะเดียวกัน บริเวณด้านหน้าและด้านข้าวของศาลได้มีรูปปั้นม้าศึกประดับไว้รวมทั้งมีบริเวณให้สักการะบูชาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นอกจากประชาชนทั่วไปจะได้สักการะพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแล้ว ใกล้เคียงกันยังมีสวนสิบสองนักษัตรที่มีความร่มรื่นสำหรับผ่อนคลาย และยังสามารถร่วมทำบุญกับรูปปั้นสิบสองนักษัตรนี้ได้อีกด้วย
จากนั้นไปกันต่อที่ สะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี สะพานแขวน สัญลักษณ์เมืองตาก ซึ่งเป็นจุดชมวิวแม่น้ำปิงที่ดีที่สุดของจังหวัด สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2525 เพื่อสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ตัวสะพานมีขนาดกว้าง 2.50 ม. ยาว 700 ม. ฐานรากและเสาเป็นคอนกรีต จำนวน 5 จุด พื้นทำด้วยไม้โยงและยึดด้วยลวดสลิงขนาดใหญ่ บนสะพานมีระยะทางยาวประมาณ 400 เมตร โดยทำหน้าที่เชื่อมตัวเมืองตากกับตำบลมะม่วง โดยเฉพาะในตอนกลางคืนนั้นจะมีการประดับไฟสวยงาม ทำให้ตัวสะพานแลดูสว่างไสวโดดเด่นเหนือผืนน้ำสีเข้ม ในปัจจุบันสะพานแขวนและสวนเฉลิมพระเกียรติฯ แห่งนี้คือสถานที่ที่จังหวัดตากใช้จัดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีปพันดวง ซึ่งเป็นงานประเพณีประจำท้องถิ่นของจังหวัดตากที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ในวันนั้นคุณจะได้เห็นภาพ หนึ่งเดียวของเมืองไทยเมื่อกระทงกะลามะพร้าวลอยเป็นสายยาวไปตามแม่น้ำปิง ชมความงามในยามเย็นแล้วไปฝากท้องมื้อค่ำที่ร้านไอยราวดี ริมแม่น้ำปิง รับประทานอาหารอร่อยท่ามกลางแสงดาว เย็นๆกับอากาศหนาว ๆ
วันที่สองของกิจกรรมการเดินทาง หลังจากเช็คเอ้าท์ ที่โรงแรมที่พักเสร็จ ภารกิจขับเที่ยวตะลุยเมืองตาก จึงเกิดขึ้น โดยจุดหมายแรก คือ "วัดพระบรมธาตุ" พุทธสถานคู่บ้านคู่เมือง อันเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า พร้อมสักการะ "หลวงพ่อทันใจ" อันเลื่องชื่อ โดยตั้งอยู่ที่ อำเภอบ้านตาก โดยมีเนื้อที่ 25 ไร่ 60 ตารางวา พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่เนินสูงมีลักษณะเป็นภูเขา สำหรับปูชนียวัตถุมีองค์พระบรมธาตุเป็นของโบราณ แต่ได้บูรณะเป็นรูปทรงเลียนแบบมาจากเจดีย์ชเวดากองแห่งพม่า ครอบองค์เดิมไว้ มีเจดีย์องค์เล็ก ๆ รายรอบไว้ด้วยองค์เดิม ซึ่งสร้างขึ้นโดย สุรกวัตถี เศรษฐีแห่งดอยมหิยกะ สร้างเพื่อบรรจุบรมอัฐและพระเกศา เมื่อวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 พ.ศ. 40
วัดพระบรมธาตุ หรือ ”วัดพระธาตุ” เป็นวัดเก่าแก่ที่ได้รับการปฏิสังขรณ์มาหลายครั้งแล้ว ตัวอุโบสถ มีประตูเป็นไม้แกะสลักที่สวยงาม หน้าบัน และจั่วเป็นไม้ หน้าต่างแกะสลัก เป็นพุทธประวัติปิดทอง หัวบันไดเป็นนาค วิหารของวัดเป็นวิหารเก่ามีเพดานสูง ๒ ชั้น มีช่องลมอยู่โดยรอบ ทำให้อากาศภายในวิหารมีอากาศเย็น และมีพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองอยู่ภายในวิหาร นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีวิหารไม้เก่าแก่ ที่มีลายแกะสลักไว้ให้ชม นับเป็นวัดที่มีคุณค่าในทางโบราณคดีมาก
หลังจากนั้นแวะไปเที่ยวเยี่ยมชมฟอสซิลไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย ยาวขนาด 72.2 เมตร ที่ "อุทยานแห่งชาติไม้กลายเป็นหิน" โดยวนอุทยานฯ แห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 30 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นที่เก็บรักษาและจัดแสดงซากฟอสซิลไม้กลายเป็นหิน ให้คุณได้ชมกันเต็มอิ่ม โดยจากการสำรวจภาคพื้นดินได้พบท่อนไม้โผล่ให้เห็นหลายสิบท่อน และได้มีการขุดขึ้นมาเพื่อจัดแสดงและพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้วจำนวน 8 ท่อนจากจำนวน 7 หลุมขุดค้น ซึ่งจากการวิจัยพบว่าเป็นไม้ทองบึ้ง (Koompassioxylon elegans) จำนวน 6 ท่อนและไม้มะค่าโมง (Pahudioxylon sp.) จำนวน 2 ท่อน
ใกล้เที่ยงแล้วจึงเดินทางต่อไปยังถนนหมายเลข 1 ตัดเข้าถนนรามคำแหง สิ้นสุดที่ตำบลหัวเดียด เพื่อลิ้มลองก๋วยเตี๋ยวร้านเก่าแก่รสชาติเด็ด "ร้านแม่บางหัวเดียด" ต้องชิมเมนูต้มยำสูตรดั้งเดิม เส้นก๋วยเตี๋ยวเหนียวนุ่ม อัดแน่นไปด้วยเครื่องเคียง น้ำซุปหอมน้ำต้มกระดูกหมู แซ่บถึงใจกับเครื่องปรุงที่คัดสรรมาอย่างดี นอกจากนี้ยังมีหมูสะเต๊ะย่างร้อนๆ และข้าวเหนียวปิ้งไส้ต่าง ๆ ให้ลิ้มลองเพิ่มเติมอีกด้วย
ภาคบ่ายคณะขับรถไปอีกไม่กี่นาทีก็ถึง "พิพิธภัณฑ์เมืองเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดตาก" ที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยปรับปรุงจากอาคารจวนผู้ว่าราชการจังหวัดตาก (หลังเก่า) ซึ่งเป็นเรือนไทยไม้สักทองทรงคุณค่ามาเป็นพิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้สถานที่ดังกล่าวยังเคยเป็น “เรือนประทับ” ของพระองค์และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จเมืองตาก เมื่อปี พ.ศ.2501 ภายในจัดแสดงและรวบรวมโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ทรัพย์สินทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดตาก เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. โดยไม่เก็บค่าเข้าชม
และยังได้ร่วมกิจกรรม ประดิษฐ์ช่อมะกรูดห่มเตยภูมิปัญญาชาวบ้านที่แฝงด้วยเอกลักษณ์และความงดงาม ติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝาก ก่อนขับรถมุ่งหน้าสู่จังหวัดสุโขทัย โดยใช้เส้นทางจากถนนตากสิน เข้าถนนหมายเลข 12 เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจขับรถสัมผัสลมหนาวส่งท้ายปีที่ตาก
รถปิกอัพยอดนิยม New ISUZU D-MAX Blue Power ทั้งเครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 Ddi Blue Power ที่ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน รวมถึงความสว่างจากไฟหน้าแบบ Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight เติมเต็มความสว่างชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมปรับระดับสูงต่ำได้ถึง 4 ระดับ และความบันเทิงด้วยหน้าจอ 8 นิ้ว ISUZU iConnect พร้อม Built-in Navigator ที่ให้ความไพเราะจากเสียงเพลงและจะพาไปเที่ยวที่ไหนนั้นต้องติดตามในครั้งต่อไป
เรื่องโดย นายเต้ย
ที่มาข้อมูล tourismthailand.org
ขอขอบคุณ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด สำหรับทริปท้าความหนาวที่จังหวัดตากได้ทั้งความชิว ชิม และได้เปิดโลกใหม่ให้กับการท่องเที่ยวสนุกสนาน
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com