ขับรถไป “ชั่งหัวมัน” ไร่ของพ่อ ตามรอยปรัชญเศรษฐกิจพอเพียง

  • โดย : Autodeft
  • 22 ต.ค. 59 00:00
  • 12,823 อ่าน

ตั้งแต่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคตตั้งเมื่อสัปดาห์ทีผ่านมา ยังความเศร้าโศกเสียใจมายังพสกนิกรชาวไทย หลายคนอาจจะมีวิธีการต่างๆ ในการไว้อาลัยต่อการสูญเสียต่อพระองค์ท่าน สำหรับผมอาจจะแตกต่างไปสักหน่อย ผมเคารพในปรัชญาของพระองค์ และแม้นจะไม่ได้มีรากเหง้าหรือองค์ความรู้ในการทำการเกษตรมาตั้งแต่อ้อนออด หากว่าการเรียนรู้ประสบการณ์จริง น่าจะทำให้เราได้อะไรมาปรับใช้ในสังคมอันซับซ้อนปัจ

 

จากกรุงเทพมหานคร หลายคนคงเคยเดินทางผ่านไปหัวหินบ่อยครั้ง แต่ในอีกด้านจังหวังชายฝั่งทะเลอันเลื่องชื่อ  โครงการพระราชดำริแห่งสุดท้ายของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ซ่อนตัวอยู่ ในชื่อโครงการ “ชั่งหัวมัน”

Subaru XV   เป็นรถยนต์คู่กายประจำทริปนี้ เจ้าอเนกประสงค์กึ่งเก๋งราคาไม่แพงคันนี้ แม้นจะไม่ใช่รุ่นทอปที่ถูกโฆษณาเป็นหลัก หากความสมถะของมั่นแบบพอเพียงไม่หวือหวาก็ยังสมน้ำสมเนื้อในสมรรถนะและฟังชั่นที่มาค่อนข้างครบครัน พอสมควร เห็นหน้าตาการออกแบบที่ดูลงตัวแบบนี้ แต่จริงๆพร้อมลุยในระดับหนึ่งเชียวล่ะ

ก่อนออกเดินทาง ผมฝากความหวังไว้กับแอพพลิเคชั่น Google Map   ไปยังโครงการชั่งหัวมัน จังหวัดเพชรบุรี ผมรู้แค่ชื่อแต่ไม่รู้ที่หมายปลายทางที่แน่ชัด แรกๆ ก็ทางปกติเหมือนที่เดินทางไปหัวหิน และแล้ว จ้าแอพนำทางก็พาผมเข้ารกเข้าพงแถวหนองหญ้าปล้อง ถนนด้านในริ่มไร้ผู้คน นอกจากรถอีแต๋นชาวบ้าน และรถไถ ให้ดูเพลินๆ ไม่นึกว่าบรรยากาศเงียบสงบแบบนี้จะซ่อนในจังหวัดเพชรบุรี ที่เราผ่านไปมาบ่อยครั้ง

Subaru XV   เป็นรถที่ค่อนข้างวางใจได้ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของมัน   Symmetrical All Wheel Drive  ช่วยให้ผมใจชื้นกับเส้นทางใหม่ๆ ไม่เคคยเดินทาง มันทำให้คุณอุ่นใจว่าปลายทางอยู่ไหนก็จะไปถึง เครื่องยนต์สูบนอนก็ทำงานค่อนข้างนิ่งขับสบายๆ ไปเรื่อยกินลมชมบรรยากาศ เสียอย่างเดียว เสียงเวลาเร่งแซงค่อนข้างดังไปสักหน่อย

เส้นทางจากทางหลวงชนบทเริ่มพาเข้าสู่ละแวกใกล้ๆ หุบเขาตะนาวศรี นาทีนี้เราเป็นรถคันเดียวบนถนนแถวนั้น  จะว่าไปก็สงสัยเหมือนกันว่าพระองค์ทรงเดินทางมาแถวนี้ได้อย่างไร ดูรอบๆ ไม่มีอะไรนอกจากป่า ไร้ชาวบ้าน ดูบางร้อนแห้งแล้ง ไม่นานป้ายนำทาง โครงการชั่งหัวมันก็ชี้ทางผมมาถึงที่หมายแล้วครับ

40  กิโลเมตรโดยประมาณจากถนนใหญ่ ถ้าคุณเลี้ยวเข้ามาตามทางหลวงชนบทที่ชี้ว่าหนองหญ้าปล้อง โครงการชั่งหัวมันพร้อมให้สำรวจปรัชญาเศรษจพอเพียงของจริง ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เปลี่ยนแปลงที่ดินกว้านซื้อที่ดินรกร้างจากชาวบ้าน แล้วเปลี่ยนที่ตรงนี้ให้กลายเป็นต้นแบบให้ประชาชนทั้งในพื้นที่และผู้ที่สนใจโครงการเกษตรทฤษฏีใหม่ ตลอดจนภาคเศรษฐกิจพอเพียงได้เห็นว่า ทุกอย่างเป็นไปได้ แม้ในพื้นที่ที่ไม่น่าเป็นไปได้

ชื่อของโครงการชั่งหัวมันนั้นมีที่มา...ที่ไป ..  ไม่ใช่ว่า พระองค์ทรงเบื่อการเมืองไทย ก็เลย พูดว่า “ช่างหัวมัน” แบบที่ชาวบ้านแถวนั้นเข้าใจกันในช่วงแรกๆ แต่โครงการชั่งหัวมันนั้น เกิดจากความช่างสังเกตของพระองค์ท่าน เมื่อครั้นพระองค์ทรงได้รับมันเทศจากชาวบ้าน ที่วังไกลกังวล,หัวหิน จึงรับสั่งนำมันเทศดังกล่าวไปไว้บนตราชั่งโบราณในห้องทรงงาน เมื่อเสด็จกลับมาพบว่า มันเทศบนตราชั่งสามารถแตกหน่อได้เอง พระองค์จึงตรัสว่า มันอยู่ที่ไหนก็ปลูกได้  จึงทรงรับสั่งให้นำมันเทศไปจัดหาที่ปลูกในวังไกลกังวล

แรกๆ ชาวบ้านก็ไม่ได้คิดว่า  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะมาทรงมาซื้อที่ดิน ที่เป็นเหมือนของไร้ค่าในสายตาคนแถวนั้น ด้วยมันเป็นเพียงไม้ป่ายูคาลิปตัส แต่ดูเหมือนยิ่งยากพระองค์ยิ่งอยากทำให้ดูว่าทุกอย่างไม่มีอะไรยาก ถ้าร่วมด้วยช่วยกันลงมืลงแรง ลอย่างแข็งขัน

หน่วยงานภาครัฐ จึงเริ่มเข้ามามีบทบาทในการปรับปรุงสาธารณูปโภคต่างๆ  ไม่ว่าจะ การเจาะน้ำบาดาล การปรับปรุงแหล่งน้ำตามธรรมชาติ การเข้าถึงของระบบไฟฟ้า ถนนหนทางที่ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติม ไปจนถึงการเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมของท้องถิ่นทั้งชาวบ้านและหน่วยงนทางด้านการปกครองส่วนท้องถิ่น ที่สำคัญพระองค์ทรงขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกรในพื้นที่อีกด้วย....

หัวมันที่พระองค์ทรงได้รับจากชาวบ้าน ก็ทรงนำมาเพาะปลูกต่อที่นี้ พร้อมทั้งยังปลูกพืชสวนครัวชนิดต่างๆ เอาไว้ เช่นหน่อไม้ฝรั่ง , มันเทศ ,ชมพู่เพชร , ยางพารา และอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่น่าเชื่อว่า จะสามารถปลูกในที่แล้งได้ นอกจากนี้ยังทรงให้มีการปรับปรุงสายพันธุ์พืชบางชนิดที่อาจจะปลูกในที่แล้งได้ผลไม่ดี อาทิ มะนาวพื้นเมือง ที่ทรงใช้วิธีการปลูกมะนายยักษ์จากนั้น นำมะนาวพื้นเมืองมาต่อกิ่งปลูกต่อ เนื่องจากรากมะนาวยักษ์ใหญ่และชอนไชดีกว่าเป็นต้น

ตลอดจนใน โครการชั่งหัวมันนี้ยังมีปศุสัตว์ของพระองค์ มีคุณตุ่ม วัวตัวผู้ของพระองค์ที่ทรงเลี้ยงเอาไว้ในฟาร์มโคนมส่วนพระองค์ในโครงการช่างหัวมัน  ตลอดจนทรงยังมีการใช้พลังงานทดแทนเต็มระบบ ทั้งการสร้างไฟฟ้าจากกังหันลม และแผงพลังงานแสงอาทิตย์มีกำลังมากพอเลี้ยงฟาร์ม และทำรายได้จาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตลอดจนยังมีองค์ความรู้ที่สำคัญ ทางด้านการทำเอทานอล และไบโอดีเซล เพื่อใช้ในไร่ของพระองค์เอง ที่นี่คุณสามารถเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างเข้าใจจากไร่ของพ่อ

รวมถึงนอกจากไร่แล้ว คุณยังสามารถแวะชมที่ประทับของพระองค์ยามที่พระองค์เสด็จมาประทับที่นี่ ไม่น่าเชื่อว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะทรงพักอยู่ในบ้านสองชั้นธรรมดา และมีรถทรงงานเป็นเพียง   Toyota Hilux   ขับเคลื่อนสี่ล้อรุ่นเก่า ที่พระองค์เคยทรงใช้ทางภาคเหนือ คุณสามารถถ่ายรูป และเยี่ยมชมในระยะใกล้ได้ ทหารรักษาการณ์ บอกผมว่า พระองค์ทรงประทับที่นี่จริงๆ เมื่อช่วง 2 ปีที่แล้ว ... ก่อนเสด็จสวรรคต

โครงการชั่งหัวมัน เสียค่าเข้าชมเพียงคนละ   20   บาทเท่านั้น เมื่อเข้ามาในโครงการแล้ว สามารถลงทะเบียนขึ้นรถเยี่ยมชมโครงการโดยรอบได้ฟรี แต่ถ้าไม่จุใจจะเดินชมเองต่อก็ได้ เจ้าหน้าที่ไม่ห้าม แต่ถ้าคุณไม่ไหวจริงๆ ก็มีจักรยานให้ยืมปั่นไปดูรอบๆ ก็ได้ หรือถ้าคุณอยากพักค้างคืน ผมเห็นไวๆ ว่ามีลานกางเต้นท์ ตรงแถวอ่างเก็บน้ำด้านบนของโครงการ แต่ไม่แน่ใจว่าคิดค่าใช้จ่ายอย่างไร

ก่อนกลับ ผมอดไม่ได้ที่จะซื้อของฝากจากร้านค้าโครงการส่วนพระองค์ Golden Place   หิ้วกลับบ้านกันชุดใหญ่ ได้หลายอย่างกลับไปฝากเพื่อนๆ ที่ออฟฟิศ ดีที่วันนี้เอา   Subaru XV   ของฝากเยอะขนาดนี้ไม่ได้หวั่นใจอะไรเก็บของสบายมากไร้ปัญหา ขับกลับก็มั่นใจในการเดินทาง

เส้นทางที่คุณจะเดินทางไป การมีรถที่มั่นใจย่อมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรากล้าค้นพบสิ่งใหม่ๆ ......วันนี้ ผมได้ค้นพบปรัชญาสำคัญที่ใช้ในการดำรงค์ชีวิต ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ...และผมว่าจะนำมันไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ในวันข้างหน้า ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

 

เรื่องโดย นายณัฐยศ ชูบรรจง  (Bonn ) นักทดสอดรถยนต์   Autodeft.com   สามารถติดตามผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ Facebook   ได้ที่   Nattayodsc 

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ