Mazda คาราวานปันสุข มุ่งสู่ภาคเหนือมอบความสุขให้กับน้องๆที่เชียงใหม่

นับเป็นกิจกรรมตอบแทนสังคมสำหรับค่ายรถยนต์สายพันธุ์ Zoom-Zoom อย่าง มาสด้า ที่จัดกิจกรรมสร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขให้เด็กๆและเยาวชนๆ ภายใต้ โครงการ Mazda คาราวานปันสุข ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่จัดกิจกรรมนี้ โดยแบ่งเป็น 4 เส้นทาง 4 ภาคทั่วไทย

สำหรับครั้งนี้ Mazda ได้เชิญผมเข้าร่วมเส้นทาง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ นำโดยรถยนต์ Mazda ทุกรุ่นทุกแบบที่ใช้เครื่องยนต์ SKYACTIV ทั้งเบนซินและดีเซล รวม 11 คัน ล้วนเป็นสีเด่นนั้นคือ สีแดง โซล เรด คริสตัล ไม่ว่าจะเป็น Mazda MX-5, Mazda2, Mazda3, Mazda CX-3, Mazda CX-30, Mazda CX-5 และ Mazda CX-8 สำหรับทริปนี้ผมได้ขับ Mazda CX-30 รุ่นท็อป 2.0 SP ขับไปยังเชียงใหม่พร้อมเพื่อนร่วมทริปอีก 3 คน มุ่งหน้าสู่เชียงใหม่ ด้วยระยะทางเกือบ 700 กม. รวม 8 ขั่วโมงครึ่ง

จากกรุงเทพฯเข้าเส้นทางสายเอเชีย ใช้ความเร็วที่กำหนดตามกฏหมาย จุดหมายแรกนั้นก่อนจะพบเด็กๆและคุณครู โรงเรียนบ้านสันทราย นั้นมาทำความรู้จักกับ ดีลเลอร์ ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ในชื่อ “กลุ่มมาสด้าเชียงใหม่” ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายมาสด้าเก่าแก่ที่คร่ำหวอดในธุรกิจรถยนต์ และเป็นศูนย์บริการแบบครบวงจร เจ้าของรางวัล Master Dealer หรือผู้จำหน่ายและบริการยอดเยี่ยมแห่งปี ถึง 3 สมัย ผ่านมุมมองผู้บริหารหญิงเก่งคนรุ่นใหม่ กับ คุณนิศารัตน์ ศิริมหาราช รองผู้อำนวยการฝ่ายขายและฝ่ายบริการ บริษัท มาสด้า เชียงใหม่ จำกัด

สำหรับ “กลุ่มมาสด้าเชียงใหม่” ได้เริ่มก่อตั้งสาขาแรกบนถนนเจริญเมือง เมื่อปี พ.ศ. 2532 จนถึงปัจจุบัน หลังจากนั้นได้เดินหน้าขยายสาขา มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันมีโชว์รูมทั้งหมด 5 สาขา ประกอบด้วย สาขาลำพูน สาขามหิดล สาขาฝาง และล่าสุดสาขาถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ (สารภี) แห่งนี้ ซึ่งเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของกลุ่มมาสด้าเชียงใหม่ โดยมีพื้นที่ขนาดประมาณ 11 ไร่ หรือกว่า 17,000 ตารางเมตร ด้วยงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท พร้อมศูนย์ซ่อมตัวถังและสีที่ได้ลงทุนเพิ่มเติมไปอีกกว่า 30 ล้านบาท ทั้ง 5 สาขาภายใต้การบริหารของ “กลุ่มมาสด้าเชียงใหม่” ได้ทุ่มงบประมาณในการลงทุนรวมกว่า 400 ล้านบาท รองรับการบริการลูกค้าได้สูงกว่า 1,400 คันต่อเดือน รองรับงานซ่อมตัวถังและสีได้มากกว่า 200 คันต่อเดือน เรียกได้ว่าการให้บริการนั้นค่อนข้างสมบูรณ์แบบและสะดวกสบายที่สุด ลูกค้าสามารถนำรถเข้ามารับการบริการตั้งแต่การขาย งานบริการ งานอะไหล่ และงานซ่อมตัวถังและสีทุกอย่างจบในที่เดียวกัน หรือ one stop service อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย รวมถึงห้องรับรองที่กว้างขวาง พรั่งพร้อมด้วยทีมงานบริการและช่างเทคนิคที่ชำนาญการ

คุณนิศารัตน์ ยังกล่าวว่า “เนื่องจากรถยนต์มาสด้าในจังหวัดเชียงใหม่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้จำนวนงานบริการของศูนย์บริการและศูนย์ซ่อมตัวถังและสีเพิ่มมากขึ้น กลายเป็นความท้าทายว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ ดังนั้น เราจึงเน้นการทำงานที่ผสมผสานระหว่างคนสองรุ่นเพื่อให้ได้แนวทางที่ดีที่สุด โดยนำเอาระบบไอทีมาใช้อำนวยความสะดวกในการทำงานพร้อมกับนำระบบออนไลน์เข้ามาช่วยส่งเสริมด้านการขายและการตลาด ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพการให้บริการอยู่เสมอ เพื่อให้ธุรกิจคล่องตัวมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจและยินดีที่จะกลับมาใช้บริการซ้ำกลายเป็นความจงรักภักดีต่อแบรนด์มาสด้าเชียงใหม่

ตลาดรถยนต์มาสด้าเฉพาะภาคเหนือในปี 2562 ที่ผ่านมา ยอดขายรวมประมาณ 4,500 คัน กลุ่มมาสด้าเชียงใหม่ ขายได้จำนวน 700 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาดมาสด้าในภาคเหนือประมาณ 15% สำหรับในปี 2563 นี้ ตัวเลขยอดขายในช่วง 8 เดือนแรก (เดือนมกราคมถึงสิงหาคม) มีจำนวนรวมประมาณ 1,500 คัน เฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ มียอดขายมาสด้ารวมประมาณ 600 คัน กลุ่มมาสด้าเชียงใหม่มียอดขายรวมกันประมาณ 300 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาดในจังหวัดเชียงใหม่ 50% ภายในสิ้นปีนี้เรามีความมั่นใจอย่างยิ่งว่ารถยนต์มาสด้าจะยังคงได้รับความนิยมจากลูกค้า โดยเฉพาะทางมาสด้ามีการปรับภาพลักษณ์ใหม่ของ CX-3 รวมทั้งแคมเปญพิเศษสำหรับ BT-50 คาดว่ายอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 600 คัน หรือใกล้เคียงกับปี 2562 ที่ผ่านมา เพื่อวางเป้าหมายให้มาสด้าเชียงใหม่เป็นผู้จำหน่ายที่มียอดขายเติบโตเป็นอันดับต้นๆ ของจังหวัด ควบคู่ไปกับการส่งมอบความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าอย่างยั่งยืน” นางสาวนิศารัตน์ กล่าวเสริม

หลังจากจบการสนทนาของผู้บริหารสาวรุ่นใหม่ถึงที่มาที่ไปรวมถึงการดำเนินธุรกิจของคุณนิศารัตน์ ศิริมหาราช แล้ว ไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมนี้ก็มาถึง ณ โรงเรียนบ้านสันทราย  ตั้งอยู่ที่ หมู่ 10 บ้านสันทรายมหาวงศ์ ต.สันทาย อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ โดยโรงเรียนแห่งนี้เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงประถมศึกษาโดยเป็นโรงเรียนขนาดเล็กเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงประถมศึกษา มีนักเรียนจำนวน 142 คน และครูจำนวน 9 คน ครั้งนี้คณะทีมคาราวาน ที่มีทั้งผมและเพื่อนๆพี่ๆสื่ออมวลชน ทีมผู้บริหารจาก มาสด้า เซลส์ และตัวแทนจำหน่ายมาสด้าในจังหวัดเชียงใหม่ร่วมทำกิจกรรมทั้งเลี้ยงอาหารกลางวัน ส่งมอบสื่อการเรียนการสอน อุปกรณ์กีฬา ทุนการศึกษา ให้กับเด็กนักเรียนที่ขาดแคลน และมีการแสดงของเด็กๆต้อนรับคณะทีมคาราวาน นับว่าเป็นกิจกรรมที่ทำให้เด็กๆมีรอยยิ้ม มีความสุข และมีพลังที่สร้างสรรค์สังคมไทยในฐานะเยาวชนที่ดีในอนาคตต่อไป

การเป็นผู้ให้นั้นสุขใจที่สุดเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆ อิ่มท้องจากมื้ออาหารกลางวัน อิ่มใจจากสิ่งที่ทีมคณะคาราวานปันสุขที่มอบให้ทั้งสื่อการเรียนการสอนนั้นทำให้เด็กๆอิ่มเอมใจขึ้นมาทันที และนับว่าเป็นกิจกรรมที่ทำเพื่อสังคมอย่างแท้จริงเพื่อพัฒนาให้สังคมไทยเป็นสังคมที่น่าอยู่ ให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนตลอดไป

 

เรื่องและเรียบเรียงโดย นายเต้ย

 

ขอขอบคุณ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับทริปปันสุขที่เชียงใหม่  ได้ทั้งความสุข ความสนุกสนาน และได้เปิดโลกธุรกิจ และวิสัยทัศน์ตลอดการเดินทางครั้งนี้

 

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com